มีอยู่จริง ทั้งโรงเรียนมีครูคนเดียว สอนตั้งแต่อนุบาล- ป.6 ฟัง ผอ.เล่าสาเหตุยิ่งอึ้ง
อึ้งตรงไหนก่อนดี ทั้งโรงเรียนมีครูคนเดียว สอนเด็กอนุบาล ถึง ป.6 ฟัง ผอ.ยิ่งอึ้ง งบประมาณต่อหัวนักเรียนได้ปีละ 30,000 บาท
กลายเป็นที่ฮือฮาอีกครั้งสำหรับแวดวงการศึกษาไทย หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลว่า มีโรงเรียนแห่งหนึ่ง คือ โรงเรียนบ้านดงโชค หมู่ 1 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เป็นโรงเรียนชุมชนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 นครพนม ทั้งโรงเรียนมีครูผู้สอนเพียงคนเดียว แต่ยังเปิดทำการเรียนการสอน พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ยอมส่งลูกหลานไปเรียนที่อื่น ทั้งที่มีนักเรียนแค่ 19 คน
วันนี้ (25 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ในพื้นที่โรงเรียน และชุมชนหมู่บ้านดังกล่าว ทราบว่า โรงเรียนบ้านดงโชค หมู่ 1 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เป็นโรงเรียนชุมชนขนาดเล็ก เนื้อที่รวมประมาณ 15 ไร่ เปิดสอนตั้งแต่ ระดับอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียนรวม 19 คน
ส่วนอาคารเรียน มี 2 อาคาร แบบปูนสองชั้นยกสูง และ อาคารอเนกประสงค์ 1 อาคาร ถือว่าเพียงพอกับการเรียนการสอน มี นายศุภมาศ กุลตังวัฒนา หรือ ผอ.บอย อายุ 49 ปี เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน มีครูผู้ช่วย 1 คน คือ นางสาวธัญลักษณ์ ดีจันทร์ หรือ ครูฟิน อายุ 23 ปี ตำแหน่งครูผู้ช่วย
นอกจากนี้ ยังมีพนักงานราชการ อีก 2 คน และพนักงานธุรการ อีก 1 คน โดยทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 นครพนม ได้ส่งมาทำหน้าที่เป็นครู สนับสนุนการสอน แก้ปัญหาครูขาดแคลน นักการภารโรงไม่มีตำแหน่ง
ส่วนปัญหาสำคัญของโรงเรียน คือ ต้องใช้วิธีการสอนรวม เนื่องจากตามเกณฑ์อัตรากำลัง กระทรวงศึกษา สามารถมีตำแหน่งครู ได้ 1 คน ต่อนักเรียน 20 คน
นอกจากนี้ ไม่มีสวัสดิการเพิ่มสำหรับครูผู้ช่วย ทำให้ทั้งครู และตัวแทนชาวบ้าน เรียกร้องให้กระทรวงศึกษา ฯ ทบทวน ดูแล เพิ่มอัตรากำลัง เนื่องจากไม่สามารถยุบรวมได้ เพราะเป็นโอกาสทางการศึกษาของลูกหลาน ที่ครอบครัวฐานะยากจนได้ศึกษาโรงเรียนในชุมชน
สอบถาม นายศุภมาศ กุลตังวัฒนา หรือ ผอ.บอย อายุ 49 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดงโชค เปิดเผยว่า ตนมาทำหน้าที่ผู้อำนวยการ ประมาณ 12 ปี ปัจจุบันมีนักเรียน รวม 19 คน ครูผู้ช่วย 1 คน นอกนั้น เป็นอัตรากำลัง ทาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 นครพนม ส่งมาสนับสนุนการสอน เป็นพนักงานราชการ 2 คน และ พนักงานธุรการอีก 1 คน
เนื่องจากมีครูผู้ช่วย ทำหน้าที่สอนเพียงคนเดียว ต้องใช้วิธีการสอนรวม ยอมรับว่า มีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก อยากให้ กระทรวงศึกษาทบทวน เพิ่มอัตรากำลังให้เหมาะสม ไม่ควรยึดอัตราส่วนระหว่างครูกับนักเรียน ตามโรงเรียนขนาดใหญ่ ต้องนึกถึงหลักความเป็นจริง
เดิมมีครูผู้สอนเพียงพอ จนกระทั่งมีการโยกย้าย ถูกตัดอัตรากำลัง จึงต้องใช้ความสามารถพิเศษ ทำการสอน ให้ดีที่สุด งบประมาณได้ปีละ 30,000 บาท ไม่พออย่างแน่นอน ทั้งค่าน้ำค่าไฟ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรม ต้องควักเงินเอง เพราะอยากให้นักเรียน ได้มีกิจกรรมเหมือนโรงเรียนใหญ่
ขณะที่ นางสาวธัญลักษณ์ ดีจันทร์ หรือ ครูฟิน ครูผู้ช่วย เปิดเผยว่า ทำหน้าที่ตำแหน่งครูผู้ช่วย สอบบรรจุเข้ามาทำงานเมื่อปลายปี 2566 ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กแต่ยอมรับไม่เคยท้อ ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ครู ดูแลลูกหลาน นักเรียน ที่พ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องทำหน้าที่เต็มที่ ถือว่างานหนัก แต่ต้องหาทางแก้ไข ใช้วิธีการสอนรวมในวิชาพื้นฐาน ที่คล้ายกัน
แต่ยอมรับมีบางวิชาที่ห่วงพื้นฐานการศึกษานักเรียน อาทิ วิชาคณิตศาสตร์ ที่ไม่สามารถจะเรียนรวมกันได้ เพราะพื้นฐานหลักสูตรต่างกัน อย่างไรก็ตาม จะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
สำหรับการยุบรวมทางชาวบ้าน ชุมชนไม่ยอมแน่นอน เพราะเป็นโอกาสทางการศึกษาของลูกหลาน โชคดีมีชุมชน และหน่วยงานราชการ ผู้ใหญ่ใจดี สนับสนุน บริจาคในส่วนของกิจกรรมนักเรียน อีกทั้งยังขอสนับสนุนครูอาสามาสอนฟรี และยังเป็นคุณค่าทางจิตใจ ก่อตั้งมากับหมู่บ้าน วอนรัฐบาล กระทรงศึกษาธิการหาทางดูแล
ด้าน นายสุนทร ผูนา อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านดงโชคหมู่ 1 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เปิดเผยว่า โรงเรียนแห่งนี้ชาวบ้านร่วมกันบริจาคที่ดินก่อสร้าง เริ่มจากปี 2484-2548 มีครูใหญ่ 6 คน จากนั้นเปลี่ยนผู้บริหารมาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน นักเรียนส่วนใหญ่เป็นลูกหลานที่พ่อแม่มาฝากปู่ย่าตายายเลี้ยง หรือมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ฐานะยากจน มีอาชีพเป็นเกษตรกร
ดังนั้นผู้ปกครองจึงนำลูกหลานมาฝากครู ขณะออกไปทำงานรับจ้าง ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนไม่ต้องการให้ยุบรวม ทุกปีหากงบประมาณไม่เพียงพอ ทางโรงเรียนกับชาวบ้าน จะมีการจัดผ้าป่าทำบุญสมทบทุน ช่วยเหลือลูกหลาน วอนรัฐบาลหาทางดูแลช่วยเหลือ