ผู้คุมเรือนจำปลิดชีพตัวเอง ศพที่ 3 ในรอบ 1 เดือน เคยพูดเป็นลางหลังเพื่อนร่วมงานตาย

ผู้คุมเรือนจำปลิดชีพตัวเอง ศพที่ 3 ในรอบ 1 เดือน เคยพูดเป็นลางหลังเพื่อนร่วมงานตาย

ผู้คุมเรือนจำปลิดชีพตัวเอง ศพที่ 3 ในรอบ 1 เดือน เคยพูดเป็นลางหลังเพื่อนร่วมงานตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้คุมเรือนจำปลิดชีพตัวเอง ศพที่ 3 ในรอบ 1 เดือน เคยพูดเป็นลางหลังเพื่อนร่วมงานตาย ว่าตัวเองคงเป็นศพต่อไป

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 29 มกราคม 2567 พันตำรวจโทสวัสดิ์ นิยมเดชา สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรเกาะทวด อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ว่าได้เกิดเหตุยิงตัวเองเสียชีวิตที่บ้าน ตำบลชะเมา อำเภอปากพนัง หลังจากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพนักงานสอบสวน และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวรชันสูตร รพ.ปากพนัง เข้าทำการตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน ประตูหหลังบ้านยังเปิดมีญาติของผู้ตายรอเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หลายนาย

ภายในห้องนอนพบศพนายภักดี อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน เป็นเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปชำนาญการประจำเรือนจำอำเภอปากพนัง สภาพศพสวมเสื้อสีเทากึ่งนั่งกึ่งนอนบนที่นอนท่อนล่างห่มผ้า มือขวาถือปืนสั้น 9 มม.แบบสแตนเลส นิ้วชี้ยังอยู่ในโกร่งไก สังเกตนกปืนพร้อมลั่นไกได้อีก ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด ส่วนช่วงศีรษะมีรอยบาดแผลทางด้านขวา

นางสาวสาลี อายุ 51 ปี พี่สาวผู้ตายระบุว่าน้องชายชื่อเล่นว่า บ่าว ปกติจะมีภรรยาแต่ได้แยกทางกันมาเมื่อ 2 ปีก่อน เพิ่งย้ายมาจากเรือนจำทุ่งสงมาที่เรือนจำปากพนัง ได้ราว 4 เดือน เขามีโรคซึมเศร้า และมีความเครียดสูงหลังจากเกิดเหตุผู้คุมผูกคอตายและยิงตัวมาแล้ว 2 คน เมื่อไม่กี่วันก่อนนั้น เขายิ่งมีความเครียดและบ่นให้กับพี่ๆ ฟังเสมอว่าเขาอาจเป็นศพที่ 3 ซึ่งทางพี่สาวได้คอยปลอบใจแต่ลึกๆ นั้นไม่รู้ว่าเครียดเรื่องอะไรมา เกี่ยวกับงานหรือไม่ ไม่มีใครทราบเพราะไม่มีใครรู้ระบบงานของเขา

จนกระทั่งช่วงเช้ามีเพื่อนผู้คุมโทรไปแจ้ง จึงรีบมาดูพบว่าเสียชีวิตอยู่ในห้อง ส่วนสาเหตุที่เพื่อนมาพบนั้นเนื่องจากว่าช่วงเช้าโทรศัพท์หาเขาแล้วไม่รับสายด้วยความเป็นห่วงเพื่อนๆจึงแวะมาดูกลับพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ขณะที่พันตำรวจโทสวัสดิ์ นิยมเดชา สารวัตรหัวหน้าสถานีระบุว่าต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์เข้าตรวจสอบชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อหาข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เนื่องจากผู้ตายเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นที่สนใจของสังคม อย่างไรก็ตามข้อมูลเบื้องต้นนั้นพยบว่าเขาป่วยด้วยโรคซึมเศร้าอยู่ด้วยอาจเป็นสาเหตุสำคัญ ซึ่งจะได้สอบหาข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้ง 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook