"น้ำหวาน พิมรา" พูดครั้งแรก! หลังอดีตแฟนเปิดตัวรักใหม่ เผยสถานะนักบินหล่อล่ำ

"น้ำหวาน พิมรา" พูดครั้งแรก! หลังอดีตแฟนเปิดตัวรักใหม่ เผยสถานะนักบินหล่อล่ำ

"น้ำหวาน พิมรา" พูดครั้งแรก! หลังอดีตแฟนเปิดตัวรักใหม่ เผยสถานะนักบินหล่อล่ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้ำหวาน ซาซ่า พูดครั้งแรก หลังอดีตแฟนเปิดตัวรักครั้งใหม่ ชาวเน็ตมองหน้าเหมือนแฟนเก่า ? พร้อมเผยสถานะหนุ่มนักบินกล้ามแน่น !

น้ำหวาน พิมรา เปิดใจครั้งแรก หลังอดีตแฟนหนุ่มเปิดตัวรักครั้งใหม่ เผยหมอดูทักจะเจอคนที่ใช่เร็วๆนี้ ไม่รู้ว่าคุณแม่ของสาวน้ำหวานโอเคกับหนุ่มคนนี้หรือเปล่า แล้วจะว่ายังไงหลังชาวเน็ตมองต่างฝ่ายต่างมูฟออนเร็วไปไหม ผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ก่อนหน้านี้มีภาพออกมา คุณแม่กับอดีตแฟนกอดกัน?

น้ำหวาน : ถ้าเป็นรูปนั้นน่าจะเป็นรูปเก่า แต่ในความเป็นจริงเขาได้มีโอกาสได้เคลียร์กันแล้วในทริปที่หวานไปแข่งโบกเกอร์ที่เวียดนาม แล้วทริปเมื่อเดือนธันวาคม เป็นทริปที่เขาได้เจอกันครั้งแรกหลังจากที่มีปัญหา ซึ่งเขากอดกัน แต่ตอนกอดหวานไม่เห็น ผู้จัดการเล่าให้ฟัง

ในทริปคือชวนไปด้วยกัน ไปพร้อมกัน?

น้ำหวาน : ค่ะ คือเรามีนักกีฬาโบกเกอร์ไปกันเยอะมาก ตัวแทนประเทศไทย

จริงๆ คุณแม่กับอดีตแฟนเคลียร์ใจกันตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้เป็นข่าว?

น้ำหวาน : ค่เ มีช่วงนึงก่อนเขาจะย้ายบ้าน คุณแม่ได้ถามหวานว่าเขาอยากทานอะไร คุณแม่จะทำเป็นของขวัญไปให้ก่อนย้ายบ้าน มีการฝากขอบคุณกันไปมา แต่ว่าที่มาเจอกันเลยคือที่เวียดนาม ซึ่งจบสวย อย่างที่หวานเคยบอกไป ทุกอย่างมันเคลียร์ก่อนปีใหม่ ต่างคน ต่างมูฟออนไปในเวของตัวเอง

หลังจากที่เลิกรากันไปจนถึงตอนนี้ สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง?

น้ำหวาน : สำหรับตัวหวาน 100% โอเคแล้ว หวานว่าตั้งแต่เขาเคลียร์กันที่เวียดนาม มันทำให้หวานรู้สึกว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นในการที่จะมูฟออนจริงๆ เราไม่มีอะไรคาใจอีกต่อไป ทุกอย่างมันจบ เรารู้สึกว่าโอเค เริ่มใหม่

ฝั่งอดีตแฟนเรามีการเปิดตัวเหมือนกับว่ากำลังคบกับคนคนนึงอยู่ เห็นบอกว่าโทรศัพท์ไลน์แตกมาก?

น้ำหวาน : หวานต้องบอกก่อนว่าหวานทราบมานานมากแล้ว แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องของเราในการที่จะพูด คนก็ไลน์มา โทรมาถามความรู้สึก วันนั้นหวานไปกาญจนบุรีไปทำงาน มีคนเดินเข้ามาสอบถาม ก็ต้องขอบคุณ ณ ที่นี่ด้วย ขอบคุณที่ห่วงใยความรู้สึก แต่หวานทราบมานานมากแล้ว

คนที่เขาไลน์มาหรือโทรมา ส่วนใหญ่เขาพูดอะไรกับเรา?

น้ำหวาน : สู้ๆ นะ เป็นกำลังใจให้ หรือว่าโอเคไหม ก็เป็นการเช็กความรู้สึกของเรา ซึ่งตัวเรารู้สึกทราบซึ้ง ตลอดเวลาที่เกิดเรื่องหรือมีปัญหา คนรอบข้าง เพื่อนฝูงไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก็ไม่เคยทิ้ง รู้สึกดีค่ะ

แล้วมีคนถามไหมว่ายังเจ็บอยู่ไหม ร้องไห้ไหม?

น้ำหวาน : มีค่ะ ตอนที่หวานอัปรูปลงล่าสุดหวานใส่แว่นดำหมดเลย ก็จะมีคอมเมนต์มาในไอจีว่า ใส่แว่นดำ เพราะว่าร้องไห้หรือเปล่า ตาบวมหรือเปล่า ก็จะมีคน DM เข้ามา ซึ่งหวานอยากจะบอกว่าแดดร้อนมาก มันไม่ได้เกี่ยวกัน มันเป็นเรื่องของทางฝั่งเขาไม่ได้เกี่ยวกับเรา เราก็ดำเนินชีวิตของเราไปตามปกติ

มีคนถามว่าเห็นแบบนี้ไม่ร้องไห้ ไม่มีน้ำตา?

น้ำหวาน : มันผ่านจุดนั้นมาแล้ว มันผ่านจุดเสียใจ ผ่านจุดร้องไห้ ผ่านจุดที่เป็นความรู้สึกแบบนั้น ณ วันนี้มันไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว พอเราตัดสินใจได้ว่าเราจะมูฟออน เราก็ไปข้างหน้าไม่ได้มองย้อนกลับไปเรื่องเดิม

แต่ก็มีคนแซวเปิดตัวมา เอ้า..หน้าเหมือนกันเลย?

น้ำหวาน : ค่ะ หวานเห็นในข่าวนะ ถ้าความเห็นส่วนตัว หวานมองว่าไม่ได้เหมือน แต่อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของคนมากกว่า

ปัจจุบันนี้เราสามารถคุยโทรศัพท์กันได้ไหม หรือเป็นเพื่อนกันได้อย่างที่ข่าวออกไปไหม?

น้ำหวาน : จริงๆ ช่วงนี้หวานไม่ค่อยได้คุยกับเขา ก่อนหน้านี้ระหว่างที่เขามูฟออนไปแล้ว เราก็ยังคุยกันอยู่ เพราะเรามีเรื่องของน้องหมาที่จะต้องสื่อสารกัน มันไม่ได้เกี่ยวว่าช่วงนี้ไม่คุย เพราะเขามูฟออนอันนี้ไม่ใช่นะคะ แต่เรื่องของน้องหมามันลงตัวก็เลยทำให้เราไม่ได้มีการติดต่อสื่อสารอะไรกันเพิ่มเติม

ถ้าเจอกันตามงาน หรือร่วมงานกัน สบายไหม?

น้ำหวาน : ทักทายได้ค่ะ เราก็เป็นพี่ เป็นน้องร่วมวงการ อย่างน้อยก็เป็นคนเคยรู้จักกัน ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน มันมีทั้งดีและมันไม่ดี

ฝั่งเขาคิดว่ามูฟออนเร็วไปไหม?

น้ำหวาน : เรื่องของเวลาอันนี้หวานไม่คอมเมนต์ เราก็ร่วมยินดีไปกับเขาด้วยที่วันนี้เขามีความสุข อันนี้ก็เป็นหน้าที่ของน้อง ของเพื่อนคนนึงที่จะทำให้กัน แต่ยังไม่ได้มีโอกาสแสดงความยินดีด้วยตัวเอง ก็ขอแสดงความยินดีผ่านทางรายการเลย

เพจดังชี้เป้าคนนี้ก็ได้เปิดตัวชายหนุ่มเหมือนกัน?

น้ำหวาน : อ่อที่เจ๊มอยลง เห็นแล้ว คนก็โทรศัพท์มาถามเยอะมากเหมือนกัน คุณอั้มเป็นเพื่อนกัน เขาเป็นเพื่อนที่ดีของหวาน

เขาเป็นนักบินใช่ไหม?

น้ำหวาน : ค่ะ หวานเคยร่วมงานกับเขาอยู่แล้ว แต่นานแล้ว วันนั้นก็จบในตอนไม่ได้มีการติดต่อสื่อสาร ก็เพิ่งวนมาทำความรู้จักกันใหม่เมื่อไม่นานมานี้

คนนี้เขาเป็นที่ปรึกษาหรือให้กำลังใจเรายังไงบ้าง?

น้ำหวาน : ด้วยความที่เราอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เวลาคุยกันก็คุยแบบง่ายๆ ไม่ต้องย่อย ก็จะถามเขาในเรื่องงานซะส่วนใหญ่ เพราะเขาก็ทำธุรกิจด้วย

ที่บอกว่าวนกลับมาเจออีกครั้ง คือบังเอิญเจอหรือมีใครแนะนำ?

น้ำหวาน : มีรุ่นพี่แนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ

สถานะเขาเป็นยังไง หัวใจว่างไหม?

น้ำหวาน : หวานไม่เคยถามเขาเรื่องนี้ เราเบสออนความเป็นเพื่อน เรื่องบางเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา หวานก็ไม่เคยสอบถาม

ความน่ารักของเขาในมุมเรา เขาเป็นคนแบบไหนที่เรารู้สึกว่าคนนี้ก็น่ารักดีนะ?

น้ำหวาน : เขาเป็นเพื่อนที่ดี ด้วยความที่เราคุยกันง่ายๆ มันก็เลยทำให้เราเป็นเพื่อนกันได้

ตอนนี้ยังไม่ใช่สถานะแฟนถูกไหม?

น้ำหวาน : ใช่ค่ะ หวานยังโสด 100%

เป็นเพื่อน แต่คุยกันทุกวัน?

น้ำหวาน : ใช้คำว่าเราทักทายกันทุกวันแบ้วซัพพอร์ตกันดีกว่า

คุยกันส่วนใหญ่มีรอยยิ้มบ้างไหม?

น้ำหวาน : ส่วนใหญ่คุยกันเรื่องตลกๆ แต่ในโหมดมีสาระเราก็คุยกัน เขาทำธุรกิจหลายอย่าง แล้วหวานเป็นคนมือใหม่ด้านธุรกิจ เพราะฉะนั้นเวลาที่เรามีคำถามอะไรที่มันสงสัยหรืออยากได้คำปรึกษา เขาก็สามารถให้เราได้

ผู้ชายคนนี้น่ารัก มีของติดไม้ ติดมือตลอด?

น้ำหวาน : เขารู้ว่าหวานชอบสิ่งนี้ก็เคยแท็กขอบคุณเขา คนก็เลยเกิดคำถามแล้วมาแซว

ถ้านับระยะเวลาที่รู้จักกัน คุยกันแป๊บเดียวเนอะ?

น้ำหวาน : หวานรู้จักเขาช่วงเดือนธันวาคม

เขาไม่คุยเรื่องอดีตของหวานเลย?

น้ำหวาน : ใช่ค่ะ ไม่เคยถาม เป็นเรื่องที่ไม่ได้ปรึกษา หวานว่าด้วยความที่เรามาเป็นเพื่อนกันตอนโต บางสิ่งบางอย่างมันก็เป็นสเปซในเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน เหมือนเรื่องเขาหวานก็ไม่เคยถาม มันแล้วแต่เราจะพูดคุยยังไง หวานมองไปที่อนาคตมากกว่า ระหว่างทางจะบาดเจ็บขนาดไหนหวานไม่เคยสน แล้วมันก็จบอย่างที่เห็น ในช่วงที่เป็นโสดอยู่ตอนนี้ หวานก็คิดได้ว่า จริงๆ เราก็ลืมมองว่าปัจจุบันนี่แหละเป็นสิ่งที่เราดิลได้ เป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ เพราะฉะนั้นชีวิตหวาน ณ วันนี้ก็คืออยู่กับปัจจุบัน มีความสุข หวานว่ามันเป็นเรื่องของสุขนิยมแล้วก็อยู่กับปัจจุบันโดยที่ไม่คาดหวังเรื่องอนาคต เพราะว่าอนาคตมันยาก สิ่งที่แน่นอนมันคือสิ่งที่ไม่แน่นอน สิ่งที่ไม่แน่นอนมันอาจจะเป็นสิ่งที่แน่นอนก็นอนก็ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในชีวิต เรามีประสบการณ์ แต่หวานไมาอยากให้ประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตทั้งหมด มันเป็นแค่ประสบการณ์ที่ผ่านไป ทุกอย่าง ทุกดราม่าที่เราเจอ มันต้องหล่อหลอมให้เรากลายเป็นคนที่โตขึ้น เป็นเวอร์ชั่นที่ดีมากยิ่งขึ้นในทุกๆ ประสบการณ์ไม่งั้นมันจะไม่มีประโยชน์เลยผ่านมาก็ผ่านไป

ช่วงที่บาดเจ็บหนักๆ มุมของน้ำหวานใช้วิธีอะไรฮีลใจตัวเอง?

น้ำหวาน : หวานโชคดีมาก หวานมีคุณพ่อ คุณแม่ที่ไม่เคยปล่อยมือหวานเลย ทั้งที่คุณแม่ก็เจอหนักมาก รวมถึงเพื่อนๆ หวานด้วย  อาจจะไม่ได้มีกันเยอะมาก ทุกวันนี้ 24 ชม. เพื่อนยังวนเวียนเฝ้าเวรยามกับหวาน หวานรู้สึกว่าถ้าไม่มีครอบครัวหรือเพื่อนๆ  หวานมาตรงนี้ไม่ได้เลย เพราะว่าเรื่องที่เจอมันหนักมาก

พอพูดถึงคุณแม่กลัวว่าคุณแม่จะโอเคไหม จะมีปัญหาไหม?

น้ำหวาน : อย่างในเรื่องของคุณแม่หวานเองหวานค่อนข้างรู้สึกไม่ดี ช่วงนี้เป็นช่วงที่หวานแข็งแรงมากในการดำเนินชีวิต มันทำให้หวานมีโอกาสย้อนกลับไปดูพวกคลิปสัมภาษณ์ตัวเองที่ผ่านมา หวานจะชอบกดเข้าไปดู แล้วหวานก็ไม่แปลกใจที่ทัวร์จะลงบ้านหวานแล้วทัวร์มาลงคุณแม่อยู่เสมอ เพราะว่าหวานพูดไม่หมด ไม่ใช่หวานพูดไม่จริง แต่หวานพูดไม่หมด มันมีบางสิ่ง บางอย่างที่เราอยากพูด แต่เราพูดไม่ได้ เพราะว่าถ้าการพูดของเรามันไปทิ้งบอมท์ให้คนอื่น หรือทำให้คนอื่นเดือดร้อน มันเป็นเรื่องมารยาทในการพูด ถ้าสังเกตุหรือย้อนกลับไปดูคลิปสัมภาษณ์เก่าๆ ก็จะเห็นว่าหวานเลือกที่จะตอบคำถามกลางๆ หมดเลย เพราะเราไม่ต้องการให้กระทบใคร อันนี้คุณแม่ก็กระชับมาเวลาสัมภาษณ์ให้พูดกลางๆ ทั้งหมด เพราะการทิ้งบอมท์ให้คนอื่นมันไม่ดี เราอยากจะเลิกกันแบบผู้ดี มันเป็นเจตนาแบบนั้นตั้งแต่วันแรก แต่พอเรื่องมันผ่านไปเรื่อยๆ มันก็ทำให้บานปลายใหญ่โต แล้วคนก็มาว่าคุณแม่เยอะมาก แต่แม่เองก็ชิล เรารู้แก่ใจ ความจริงมีหนึ่งเดียว แต่มันแล้วแต่วิจารณญาณและมุมมองของคนที่จะมองเข้ามา คอมเมนต์ส่วนใหญ่ว่าคุณแม่หมดเลย หวานเองก็เสียใจ เราเป็นลูกไม่สามารถพูดออกไปได้หมด เพราะการพูดของเราทำร้ายคนอื่น เราเลือกที่จะไม่ทำอยู่แล้ว

บางคนรู้แค่มุมเดียว แต่ก็ให้มันจบไป?

น้ำหวาน : จริงๆ มันควรจะจบ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องในบ้าน มันไม่ควรที่จะถูกเผยแพร่ออกไป แต่ ณ วันนี้เรื่องในบ้านมันถูกกระจัดกระจาย ไม่ว่าหวานจะทำอะไร อย่างหวานสัมภาษณ์ หวานมีคนคุยบ้าง คนก็ว่าคุณแม่ มันมาได้ยังไง หวานก็งง เลิกกับแฟนก็ว่าคุณแม่ว่าคุณแม่เป็นต้นเหตุ พอหวานอ่านแล้วมันไม่ใช่ อะไรที่คุณแม่ผิดหวานยอมรับผิดมาตลอด เราไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาลที่ทำทุกอย่างได้ถูกต้องเสมอไป ทุกคนมันต้องมีส่วนผิด จากนี้จะคอมเมนต์อะไรอยากให้พูดถึงกันในแง่ดีนิดนึง เพราะคุณแม่เริ่มส่งทนายไปพูดคุย แล้วมีหลายคนวนกลับมา

ตอนนี้คนที่คนที่คอมเม้นต์ด้านลบ ก็คือไหว้สวยรวยกระเช้า?

น้ำหวาน : เราไม่ได้อะไรกับเขา แต่เป็นวิธีการสอนวิธีการเล่นโซเซียลให้กับเขา ถ้าไม่รู้จริง อย่าเม้นท์ แต่ถ้าขอโทษกลับมา คุณแม่ก็ให้อภัย ถือว่าผู้ใหญ่ให้อภัยเด็ก ซึ่งก็เยอะ เพราะคำพูดแรงๆ เยอะมาก คิดได้ยังไง บางอย่างมันไม่ถูก หวานถึงได้บอกว่ามีคนคิดแบบนี้ เราพูดอะไรไม่ได้มาก

คอมเมนต์ไหนอ่านแล้วไม่โอเค?

น้ำหวาน : ก็อย่างที่ทุกคนเห็นแหละ แต่ไม่แปลกใจจากเรื่องที่เกิดขึ้น หวานพูดไม่หมด ทำไมรถทัวร์มาลงบ้านหลายคันแล้วคันเหล่า ส่วนใหญ่ก็โทษคุณแม่ว่าทำลายชีวิตคู่หวานให้พัง

บางคำ ”ตกลงแฟนลูกหรือแฟนแม่“?

น้ำหวาน : แต่ไม่ได้คำว่าแฟน ใช้คำแรงกว่านั้น อ่านแล้วได้แต่ส่ายหัว ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แต่หนึ่งเดียวนั่นคืออะไร มันก็แค่นั้นแหละ มันก็โทษตัวเองแหละ พูดไม่หมดเพราะเรื่องบางเรื่องมันไม่สามารถพูดได้

อยากบอกอะไรกับชาวเน็ต?

น้ำหวาน : ก็อยากให้เม้นต์กันแบบน่าเอ็นดูนิดนึง คือหวานทำงานมา 20ปี เราตั้งใจสร้างความสุขให้ทุกคน ในวันที่หวานล้ม ก็อยากเม้นต์แบบเป็นกำลังใจกันนิดนึง เห็นเรามาตั้งแต่เด็ก ก็อยากให้เปิดใจ เอ็นดูในการคอทเมนต์ เปิดใจดูว่ามันมีหลากหลายมุม” และเรื่องชีวิตคู่ ถ้าจะว่า ไม่ว่าเราก็ว่าเขา อันนี้หวานว่าแฟร์ แต่ถ้าลากคนอื่นเข้ามา มันไม่แฟร์ โทษคนอื่นมันไม่ดี

สภาพจิตใจคุณแม่?

น้ำหวาน : แรกๆ เลยคุณแม่เป็นคนโดนเยอะสุด แต่หวานเป็นคนร้องไห้เยอะสุด แต่คุณแม่ปลอบใจเรา ทั้งทีเราหัวอกเดียวกัน บางวันขับรถไปกับแม่ หวานร้องไห้กลางสี่แยก แม่ก็มาขับแทน บางวันเราแย่มาก เราผ่านไปได้เพราะครอบครัวและเพื่อน

แล้วนักบินล่ะ คุณแม่ว่าไง?

น้ำหวาน : คุณแม่ไม่ได้เม้นต์เรื่อง เขาไม่เคยมายุ่งเรื่องเรา แม่เจอตอนที่เขาแวะมารับที่บ้าน แม่ไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่าไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน เดี๋ยวฉันโดนทัวร์ลง(ยิ้ม) เขาแค่เป็นห่วงเรื่องขับรถ ช่วงที่เกิดปัญหา หวานขับรถชน ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ถอยรถชนยุบไปเลน ตอนนั้นมันไร้สติ

หนุ่มนักบิน ไปขอจากพระแม่รัศมี?

น้ำหวาน : หวานเป็นเพื่อนกับเขา ตอนไปไหว้ก็ขอพระแม่ ขอให้เจอคนดีที่พอดีกับหวาน มันหายากคนที่พอดีกับเรา ทุกคนมีด้านดีและไม่ดี เพราะฉะนั้นถ้าเราจะมีแฟน มันต้องพอดีกัน และเรามีแฟนมาน้อย ฉะนั้นหวานต้องหาคนที่พอดีกับเรา

โสด 100% ถ้าคนจะมาขายขนมจีบล่ะ?

น้ำหวาน : หวานโสด(ยิ้ม) แต่จริงๆ หวานมีความสุขกับตัวเองนะ จะมีแฟนหรือไม่มีแฟน มันไม่ใช่ประเด็น ถ้ามีแล้วปวดหัว ไม่มีดีกว่า แต่ก็มีหมอดูทักว่าจะเจอคนที่ใช่ก่อน 30 เมย. บางคนก็บอกก่อน บางคนก็บอกหลัง เริ่มสับสน แต่หมอดูทักว่าจะมีคู่ ก็สบายใจ จะได้เริ่มวางแผน ตอนนี้ใช้ชีวิตโสด สวยๆ ไปก่อนได้

และคุณนักบินคนนี้ ตรงตามที่คุณหมอทักไหม?

น้ำหวาน : หวานไม่ทราบจริงๆ เขาเป็นเพื่อน

เราคาดหวังกับรักครั้งต่อไปยังไง?

น้ำหวาน : หวานไม่คาดหวังแล้วกับความรักครั้งต่อไป หวานฝากชีวิต ความสุขไว้กับปัจจุบันเท่านั้น เพราะเป็นสิ่งที่เราดิวได้ และอะไรที่เกินวันพุ่งนี้ หวานไม่คิด หวานคิดแค่วันนี้ วันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่

เราจะกลายเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝนไหม?

น้ำหวาน : จริงๆ เราไม่เคยแต่งงานนะ เราก็ไม่รู้ภาพนั้นเป็นยังไง แต่ถามว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ เรามีความสุขกับตัวเองมากพอ พยายามบิ้วความสุขให้ตัวเอง เพื่อจะกระจายไปให้คนอื่นได้

สเปคของเรา?

น้ำหวาน : สเปคเหรอ อย่างแรกชอบคนที่หน้าตา หน้าตาถูกใจ นิสัยค่อยๆ ดูไป ชอบคนที่พอดีกับเรา ตลกได้ (ร้องเพลงไหม?) ไม่เอาดีกว่า (ยิ้ม) หวานชอบคนเก่ง มีความสามารถ มันต้องเจอ อายุไม่ห่างกันมาก ซึ่งคนในวงการเป็นพี่เป็นน้องกัน (ต่างชาติล่ะ?) หวานชอบจองกุก หวานเป็นอาร์มี่

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ "น้ำหวาน พิมรา" พูดครั้งแรก! หลังอดีตแฟนเปิดตัวรักใหม่ เผยสถานะนักบินหล่อล่ำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook