หนุ่มนักตีดาบโบราณถูกเก๋งย้อนศรชนเสียชีวิต แม่ใจสลาย ลูกกลับมาฉลองวันเกิด
หนุ่มนักตีดาบโบราณถูกเก๋งย้อนศรชนเสียชีวิต เผยขับรถจากลำปางมาฉลองวันเกิดแม่เมื่อคืนก่อนเสียชีวิต ล่าสุด ครอบครัวคู่กรณีมาขอขมาที่วัด
จากกรณีเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเวลา 05.20 น. ของวันที่ 6 ก.พ.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งเหตุ หนุ่มขับเก๋งรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน 9829 กทม. ย้อนศรขึ้นสะพานข้ามแนกคลองประปา ประสานงากับรถโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 2312 กทม. ซึ่งขับขี่มาตามปกติได้รับบาดเจ็บจากการกระแทกพวงมาลัยทำให้หมดสติ และติดค้างอยู่ภายในรถ
ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำตัวออกมาทำ CPR แต่ไม่เป็นผล ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายสุทนนท์ อายุ 34 ปี ที่เกิดเหตุบริเวณบนสะพานข้ามแยกคลองประปามุ่งหน้าห้างแม็คโคร แจ้งวัฒนะ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
ที่ศาลา 4 วัดทินกรนิมิต ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี บรรยากาศรดน้ำศพ และสวดอภิธรรมคืนแรกของ นายสุทนนท์ อายุ 34 ปี ช่างตีดาบพายัพสินค้างาน OTOP จังหวัดลำปางที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ทางครอบครัวและญาติพี่น้องต่างทยอยเดินทางมารดน้ำศพ และสวดอภิธรรม
โดยมี นางมันทนา อายุ 57 ปี แม่ผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยแฟนสาว น้องชาย และลูกชายผู้เสียชีวิต 2 คน อายุ 4 ขวบ และ 8 ขวบ ได้โอบกอดคุณพ่อพนมมือไหว้ร่ำให้อยู่ตลอดเวลา โดยมีกำหนดสวดอภิธรรมทั้งหมด 5 คืน ก่อนทำการฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 12 ก.พ.67
นางมันทนา แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนมาทราบข่าวเมื่อเช้าเวลาประมาณ 08.00 น. ว่าลูกโดนรถชนเสียชีวิตบนสะพานข้ามคลองประปา จึงมาที่เกิดเหตุแล้วเจอลูกอีกทีคือลูกนอนอยู่เสียชีวิตแล้ว ตนไม่คิดว่าลูกจะเสียชีวิตเร็วขนาดนี้เพราะอายุยังน้อย นิสัยของลูกเป็นคนเก่งค้าขายเก่งทำเป็นหมดทุกอย่าง เป็นคนกตัญญูชอบพาที่บ้านไปเลี้ยงข้าวให้เงินดูแลครอบครัวตลอด เป็นเสาหลักของครอบครัว
ปกติลูกไม่ได้พักอาศัยอยู่จังหวัดนนทบุรี ลูกตนจะทำงานอยู่ที่จังหวัดลำปาง ตีมีดขายเป็นสินค้าโอทอป แต่ลูกตนเป็นคนสายตาสั้น แต่ก็รักษาตัวเองเพื่อที่จะมาทำอาชีพตีมีดเลี้ยงครอบครัว เป็นเสาหลักของบ้าน ซึ่งเมื่อวานลูกตนเพิ่งเข้ามาในกรุงเทพเพราะวันที่ 5 ก.พ.67 เป็นวันเกิดของตน จึงพาตนและครอบครัวไปกินข้าวเลี้ยงวันเกิดย่านหนองจอก
ซึ่งตนได้ห้ามแล้วว่าไม่ต้องมาเกรงใจให้มาวันตรุษจีนทีเดียว แต่ลูกชายไม่ยอมเห็นเป็นวันสำคัญจึงมาจัดเลี้ยงให้ ซึ่งตอนที่เลี้ยงวันเกิดลูกไม่ได้พูดอะไรเป็นลางสังหรณ์ หลังจากกินเลี้ยงวันเกิดลูกชายก็ขับรถมาส่งที่บ้านตามปกติ แต่ช่วงตี 2 ตนได้ออกไปตลาดเพื่อไปซื้อของมาขาย จึงไม่ทราบว่าลูกชายขับรถออกไปไหนตอนเช้ามืด
ตอนนี้ไม่กล้าดูข่าวที่ออกไปและคลิปกล้องวงจรปิดที่รถยนต์ย้อนศรมาชนลูกตน ตนรับไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าลูกชายมาหาตนแล้วจะเสียชีวิต ตอนนี้รู้สึกเสียใจ ที่เสียลูกไปสงสารเมีย สงสารหลานอีก 2 คน ที่ขาดเสาหลัก ขาดพ่อไป
ครอบครัวเก๋งดำย้อนศรมาขอขมาแทนลูก มอบเงินช่วยงานศพ 3 หมื่นบาท
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.40 น. คุณพ่อและคุณแม่ของของนายชโยกร อายุ 32 ปี หนุ่มคู่กรณี เดินทางมาพร้อมครอบครัวทั้งหมด 5 คน โดยผู้เป็นพ่อได้นำพานขอขมาธูปเทียน ทำการขอขมา นางมันทนา แม่ของผู้เสียชีวิต ท่ามกลางเหล่าบรรดาญาติผู้เสียชีวิตจำนวนหลายคน พร้อมจุดธูปคนละ 1 ดอก ก้มกราบขอขมาศพผู้เสียชีวิต
พ่อของนายชโยกร คู่กรณี กล่าวว่า วันนี้ตนและครอบครัวได้มากราบขอขมาผู้เสียชีวิต กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นตอนนี้นนยังคุยกับลูกชายไม่ได้ เนื่องจากถามตอบยังไม่รู้เรื่องมีอาการตกใจอยู่ ตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอกไหปลาร้าหัก
ไม่ทราบว่าลูกชายไปไหน แต่ปกติแล้วจะกลับช่วงเช้าตลอดไม่รู้ว่าไปหาเพื่อนหรือเปล่า ส่วนเรื่องกินเหล้าต้นไม่แน่ใจ ดื่มหรือไม่ ในส่วนนี้ต้องรอจะให้ตำรวจสอบปากคำอีกครั้งทางพนักงานสอบสวนจะนัดลูกชายตนไปที่โรงพัก
ในวันนี้ที่เดินทางมาเพื่อจะกราบขอขมาศพและครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมฟังสวดอภิธรรมคืนแรก ในวันนี้ก็ได้นำเงินจำนวน 30,000 บาท มามอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นเกี่ยวกับค่าจัดงานศพ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีความแต่อย่างใด ส่วนในเรื่องของคดีให้เป็นไปตามกฏหมาย ยืนยันว่าจะเยียวยาค่าเสียหายและยอมรับผิดทั้งหมดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใตครั้งนี้
ด้าน นางมันทนา แม่ของผู้เสียชีวิต ได้รับพานขอขมาธูปเทียนจากพ่อแม่ของคู่กรณีผู้ขับขี่เก๋งย้อนศร ทั้งน้ำตา แต่ไม่ขอพูดคุย เพราะยังทำใจไม่ได้ ที่ลูกต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเงินที่ทางครอบครัวคู่กรณีที่นำมาให้ในวันนี้ เป็นเงินที่ทาพ่อของคู่กรณีรับผิดชอบชดใช้ในการจัดพิธีศพเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในคดีความ
ทางด้านคดีความผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถาม พ.ต.ท. เฉลิมพล ซื่อสัตย์ รองผกก. (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ในกรณีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดไว้แล้ว เบื้องต้นจากการตรวจสอบตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ส่วนข้อหาอื่น ๆ ตอนนี้ทางตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำผู้ขับขี่เก๋งได้ เพราะได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย รวมถึงผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบต่อทรัพย์สินที่เกิดจากเหตุการณ์ครั้งนี้
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ