ด.ญ.หายจากบ้าน 13 ปี พ่อตามหาไม่ท้อ ล่าสุดจับคนร้ายได้ พร้อมข่าวร้ายเรื่องลูกสาว

ด.ญ.หายจากบ้าน 13 ปี พ่อตามหาไม่ท้อ ล่าสุดจับคนร้ายได้ พร้อมข่าวร้ายเรื่องลูกสาว

ด.ญ.หายจากบ้าน 13 ปี พ่อตามหาไม่ท้อ ล่าสุดจับคนร้ายได้ พร้อมข่าวร้ายเรื่องลูกสาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 เศร้า ด.ญ.หายจากบ้าน 13 ปี พ่อแม่ตามหาไม่ท้อ สุดท้ายใจสลาย จับโจรได้พร้อมข่าวร้ายเรื่องลูก

เรื่องราวที่น่าสะเทือนใจนี้เกิดขึ้นที่คังจิน เขตหูหลาน เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา สามีภรรยาคู่หนึ่งมุ่งความสนใจไปที่การตามหาลูกสาวที่หายไป พวกเขายังอาศัยอยู่ในหอพักเก่าๆ ไม่กล้าย้ายไปไหน เพราะกลัวว่าถ้าลูกสาวกลับมาจะไม่พบพ่อแม่

ฝันร้ายของครอบครัวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2554 วันนั้นลูกสาววัย 10 ขวบของพวกเขากลับบ้านไม่ตรงเวลา ทั้งที่ระยะทางจากโรงเรียนอยู่ห่างจากบ้านเพียงไม่กี่เมตร และสามารถเดินกลับบ้านได้ภายใน 2-3 นาที

“เมื่อก่อนเราเคยรับและส่งลูกสาวของเรา วันนั้น ลูกบอกผมว่าเธอโตแล้วและสามารถกลับบ้านได้คนเดียว ดังนั้นนั่นจึงเป็นวันเดียวที่เราไม่ไปรับเธอ” ผู้เป็นพ่อกล่าว

พ่อจึงตัดสินใจไปที่ตึกซึ่งลูกสาวมักนั่งอ่านหนังสือ และยิ่งใจไม่ดีมากขึ้นเมื่อพบกระเป๋าและหมวกของลูกสาว ตกอยู่ที่บันไดระหว่างชั้น 2 และชั้น 3 ด้วยความรู้สึกไม่ดีจึงรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนเพื่อสอบถาม แต่ก็พบว่าสถานที่ปิดแล้ว 

จากการสอบถามครูที่โรงเรียนทราบว่า ลูกของเขาเป็นคนที่สองที่ออกจากห้องหลังเลิกเรียน ด้วยกลัวว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นเขาและภรรยาจึงรีบค้นหาร่องรอยของลูกสาวในเมืองทันที ระดมญาติและเพื่อนฝูงให้ช่วยค้นหาด้วยกัน แต่ก็ยังไร้วี่แวว…

เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป จึงมีเพื่อนบ้านรายหนึ่งเข้ามาให้เบาะแสว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.40 น. ของวันเกิดเหตุ เขาเห็นชายคนหนึ่งเดินออกจากย่านที่อยู่อาศัย โดยอุ้มเด็กที่ไม่สวมหมวกไว้ด้วย ตอนนั้นเขาคิดว่าทั้งสองเป็นพ่อลูกกันจึงไม่ค่อยสนใจ

ขณะเดียวกัน เพื่อนบ้านอีกคนเล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.35 น. ของวันที่เกิดเหตุ พวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากโถงทางเดินของตึก แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปตรวจสอบก็ไม่พบสิ่งใดเลย ในตอนนี้ทุกคนต่างกังวลว่าเด็กหญิงจะตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ทางครองครัวได้แจ้งเรื่องต่อตำรวจ ซึ่งเปิดการสอบสวนทันทีและยื่นฟ้องคดีลักพาตัว

ขณะเดียวกันก็ตัดสินใจที่จะไม่ยอมแพ้ในการตามกาลูกด้วยตัวเอง พวกเขาโพสต์ประกาศเพื่อค้นหาผู้สูญหายทุกที่ และตั้งเงินรางวัลมูลค่า 100,000 หยวน (ประมาณ 5 แสนบาท) ให้กับใครก็ตามที่สามารถค้นหาที่อยู่ของลูกสาวได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเก็บเงินได้พวกเขาจะใช้มันเพื่อออกไปตามหาลูกสาว

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งคู่เดินทางไปทั่วปักกิ่ง ซานตง เหลียวหนิง กวางตุ้ง กวางสี ฝูเจี้ยน พวกเขาเผชิญกับเหตุการณ์ขึ้นๆลงๆ มากมาย มักจะได้รับโทรศัพท์ที่จงใจโทรมาหลอกลวง ทำเอาจิตใจแทบแตกสลาย แต่พวกเขาก็ยังไม่ละทิ้งความหวังที่จะตามหาลูกสาวของ

ในปี 2556 พวกเขาได้รับข่าวว่ามีคนขายดอกไม้ที่ประตูตะวันออกของเซินเจิ้น ซึ่งดูคล้ายกับลูกสาวของพวกเขาอย่างมาก จึงรีบไปที่นั่นทันทีและพยายามค้นหานานกว่า 20 วัน แต่แล้วความหวังก็พังทลายลงอีกครั้ง 

ตั้งแต่วันที่ลูกสาวหายตัวไป ผู้เป็นแม่ก็ไม่ได้นอนเต็มอิ่มเลย แน่นอนว่าทำให้เกิดปัญหาทางร่างกายมากมาย ช่วงหนึ่งลดน้ำหนักตัวลดลงเหลือเพียง 33.5 กก. ทั้งนี้ สามีภรรยายังเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่า เป็นสมาร์ทโฟน เรียนรู้วิธีท่องอินเทอร์เน็ต และส่งวิดีโอสั้นๆ ด้วยความหวังว่าพลังของโซเชียลฯ จะช่วยให้พวกเขาค้นหาลูกสาวเจอ

ผู้เป็นแม่ถือภาพสเก็ตของลูกสาวไว้ในมือ และพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "บางคนบอกว่าเด็กที่หายไปหลายปี รูปลักษณ์คงเปลี่ยนไปแล้ว และแนะนำให้เราขอให้ผู้เชี่ยวชาญวาดรูปให้ใหม่ เธอจะดูเป็นอย่างไร เมื่อตอนที่เธอโตขึ้นจนอายุ 20 ปี ฉันไม่เคยคิดเลยว่านี่จะเป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะได้เห็นลูกสาวของฉันเมื่อโตขึ้น”

กระทั่งช่วงสิ้นปี 2566 พวกเขาจึงได้รับข่าวว่าคดีมีความคืบหน้าอย่างมาก ผู้ต้องสงสัยที่ลักพาตัวเด็กถูกจับกุมโดยตำรวจเมืองฮาร์บิน ในข้อหาข่มขืน ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2567 สำนักงานอัยการอนุมัติการจับกุม นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คดีดังกล่าวก็ถูกส่งกลับให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมอีก

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 มีการดำเนินคดีที่ศาลประชาชนเขตหูหลาน ในเวลานี้สามีภรรยาจึงได้รู้ความจริงว่า ลูกสาวของพวกเขาไม่สามารถกลับมาได้อีก เพราะเสียชีวิตไปตั้งแต่ 13 ปีก่อนแล้ว

ตามคำฟ้องของอัยการเผยว่า เมื่อผู้ต้องหาเห็นเหยื่อวัย 10 ขวบ เดินอยู่คนเดียวในย่านที่พักอาศัย เขาก็เดินตามเธอเข้าไปในโถงทางเดิน หาจังหวะที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ ใช้ความรุนแรงอุ้มเหยื่อไปยังโรงจอดรถในอาคารใกล้เคียง ล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อ 2 ครั้ง แล้วทิ้งเธอไว้ ก่อนจะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ 

ผู้ต้องหาสารภาพว่า ไม่กี่วันต่อมาเขากลับไปที่เกิดเหตุ พบว่าเหยื่อเสียชีวิตแล้วจึงตัดสินใจทิ้งศพไว้ หลังจากนั้นเขากลัวที่จะถูกค้นพบจึงออกจากพื้นที่นั้น และไปที่เมืองต้าเหลียนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจค้าปลีกผลไม้ แต่ไม่กี่ปีต่อมาก็กลับมาที่ฮาร์บินเพื่อทำงาน จนกระทั่งเขาถูกจับกุม

เรื่องราวทั้งหมดทำให้หัวใจพ่อแม่สลาย "ฉันคิดถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน ฉันอยากให้ลูกสาวของฉันถูกลักพาตัวจริงๆอย่างน้อยเธอก็ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ฉันฝันอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งถ้าเราสามารถตามหาลูกสาวของเราได้ ครอบครัวจะได้กลับมารวมตัวกันและกอดกันแน่นๆ”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook