เพราะอะไร? ผู้เชี่ยวชาญเผยเหตุผลที่ไม่ควรเปิดพัดลมจ่อตัวเวลานอน

เว็บไซต์ ladbible นำเสนอเรื่องราวใกล้ตัวที่ผู้คนอาจคิดไม่ถึง นั่นก็คือ ไม่ควรเปิดพัดลมจ่อที่ตัวโดยตรงในขณะที่คุณกำลังนอนหลับ

เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง พัดลม ทำงานโดยการหมุนเวียนอากาศเย็นและแห้งไปรอบๆห้อง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในการคลายร้อน แต่มันก็สามารถทำให้คอ, จมูก และดวงตาของคุณแห้งได้ ซึ่งอาจส่งผลให้คุณต้องเจอกับ "ไข้ละอองฟาง" โรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อสิ่งแปลกปลอม ที่ทำให้คุณรู้สึกคันจมูก คันตา น้ำมูกไหล และจาม

ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับจาก Sleep Advisor รายหนึ่ง เผยว่า "กระแสลมที่ไหลเวียนอย่างต่อเนื่องมีแนวโน้มที่จะทำให้ช่องจมูกของคุณแห้ง ซึ่งอาจส่งผลต่ออาการไซนัส"

"หากความแห้งกร้านมากเป็นพิเศษ อาจส่งผลให้ร่างกายของคุณผลิตน้ำมูกส่วนเกินเพื่อพยายามชดเชย จากนั้น คุณจะเสี่ยงต่อการอุดตัน คัดจมูก และปวดศีรษะจากอาการไซนัส"

นอกจากน้ำมูกแล้ว ยังไม่จบแค่นั้น เพราะมันอาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อของคุณอีกด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญยังเผยต่ออีกว่า "ผู้ที่นอนหลับโดยให้พัดลมเป่าโดยตรงอาจตื่นขึ้นมาด้วยอาการตึงหรือปวดกล้ามเนื้อ เนื่องจากความเย็นสามารถส่งผลทำให้กล้ามเนื้อเกร็งและเป็นตะคริวได้"

"ปัญหานี้พบบ่อย โดยเฉพาะกับคนที่ชอบนอนเอาพัดลมเป่าหน้าและลำคอ ถ้าคุณตื่นเช้ามาแล้วมีอาการคอเคล็ด นั่นอาจเป็นเพราะลมที่เป่ามาที่คุณตลอดเวลา"

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะนอนเอาพัดลมเป่าตัวไม่ได้เลย เพราะถ้าห้องของคุณมีอากาศร้อนและไม่ถ่ายเท คุณก็สามารถเปิดได้ แต่หากคุณมีอาการภูมิแพ้ ผิวแห้ง ก็ควรหลีกเลี่ยง

เจมส์ วิลสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ เสริมทิ้งท้ายว่า "ในระหว่างวัน ให้เปิดหน้าต่างด้านใดด้านหนึ่งของบ้านเพื่อให้อากาศถ่ายเท และหากมีแสงแดดส่องเข้ามาในห้องก็ควรใช้ม่านหรือมูลี่บังเอาไว้"

"การอาบน้ำสัก 1 ชั่วโมงก่อนนอน หรือใช้วิธีวางเท้าเปล่าของคุณลงบนขวดน้ำอุ่น จะช่วยให้อุณหภูมิร่างกายของคุณสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการนอนหลับได้เป็นอย่างดี"

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ใช้งานได้จริงก็คือ การเอาปลอกหมอนใส่ไว้ในตู้เย็นเพื่อทำให้มันชื้นเล็กน้อย รวมไปถึงการออกกำลังกายในระหว่างวันเพื่อทำให้ตัวเองเหนื่อยล้า ก็จะทำให้คุณนอนหลับสบายยิ่งขึ้นเช่นกัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ควรเปิดพัดลมให้ส่าย ไม่หันจ่อโดยตรงจะดีที่สุด