พรรคการเมืองใหม่ จี้รัฐประกาศกฎอัยการศึก
พรรคการเมืองใหม่จี้รัฐประกาศกฎอัยการศึก จับแกนนำยุติม็อบแดง เสนอปรับ "สุเทพ-พล.อ.ประวิตร-พล.อ.อนุพงษ์" ออกจากตำแหน่งที่ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด พร้อมปฏิรูปประเทศไทย เผยพันธมิตรฯ นัดเครือข่ายทั่วประเทศประเมินสถานการณ์ม็อบเสื้อแดง 18 เม.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 14.30 น. วันนี้ (13 เม.ย.) พรรคการเมืองใหม่ โดยนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค นายประพันธ์ คูณมี ผู้อำนวยการพรรค และนายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวท่าทีของพรรคการเมืองใหม่ที่มีต่อสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้
โดยนายสำราญ กล่าวว่าพรรคได้ประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า มีการเคลื่อนไหวโดยการวางแผนซ่องสุมกำลัง เป็นกองกำลังติดอาวุธที่มีการจัดตั้งอย่างเข้มแข็ง ขณะที่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมามีการใช้กองกำลังติดอาวุธสงครามร้ายแรง ดังนั้นพรรคจึงขอเสนอให้รัฐบาลเร่งประกาศกฎอัยการศึก เข้าตรวจค้น และจับกุมแกนนำ เพื่อหยุดยั้งสถานการณ์ให้กลับสู่ความสงบโดยเร็ว รวมทั้งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีปรับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกจากตำแหน่ง เพราะเห็นว่าประเมินสถานการณ์ผิดพลาดร้ายแรง
นายสำราญ กล่าวอีกว่านอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ออกด้วย เนื่องจากไม่ได้เข้าใจสถานการณ์อย่างถ่องแท้และออกมาให้ความเห็นว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ขณะเดียวกันขอให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำในการเสนอการปฏิรูปประเทศไทยร่วมกับภาคส่วนอื่น ๆ ภายใน 3-5 เดือน และประกาศช่วงเวลาที่ชัดเจนในการอยู่ในตำแหน่งก่อนลาออกหรือยุบสภา อีกทั้งเห็นด้วยให้ตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนข้อเท็จจริง 10 เมษายน
นายสุริยะใส เตือนพรรคร่วมรัฐบาลที่พยายามชิงความได้เปรียบบีบให้นายกรัฐมนตรียุบสภา ว่าการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองไม่เป็นผลดี หรือทางออก เพราะหากมีการยุบสภาในช่วงที่ไม่ได้จัดการกับการก่อการร้าย การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอาจซ้ำรอย 2 เมษายน 2549 ที่ประชาชนโนโหวต ขณะเดียวกันข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ ไม่ใช่ทางออกเช่นกัน ส่วนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะนัดประชุมเครือข่ายทั่วประเทศในวันที่ 18 เมษายนนี้ ที่มหาวิทยาลัยรังสิตเพื่อประเมินสถานการณ์ กำหนดกิจกรรมการเคลื่อนไหวทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ และประเมินว่าจะมีท่าทีนิ่งเฉยหรือเคลื่อนไหวต่อไปหรือไม่
"มีสัญญาณอันตรายจากพรรคฝ่ายค้านในศรีลังกาที่เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้าอาวุธให้กบฏพยัคฆ์ทมิฬ และการไปรัสเซียบ่อยครั้งเป็นสัญญาณที่บอกว่าอาจเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายสากล จึงน่าจับตาบทบาทที่เกี่ยวกับการชุมนุม" นายสุริยะใส กล่าว