เชียงใหม่ป่วน วิศวกรเปิดประตูเครื่องบิน ล่าสุดคลั่งในห้องขัง ตำรวจหิ้วส่ง รพ.ประสาท

เชียงใหม่ป่วน วิศวกรเปิดประตูเครื่องบิน ล่าสุดคลั่งในห้องขัง ตำรวจหิ้วส่ง รพ.ประสาท

เชียงใหม่ป่วน วิศวกรเปิดประตูเครื่องบิน ล่าสุดคลั่งในห้องขัง ตำรวจหิ้วส่ง รพ.ประสาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชียงใหม่ปั่นป่วน วิศวกรเปิดประตูเครื่องบิน ล่าสุดคลั่งเอาหัวโขกห้องขัง กัดมือตัวเอง ตำรวจวุ่นหิ้วส่งโรงพยาบาลประสาท

ความคืบหน้าหลังตำรวจจับกุม นายหว่อง ไซ อึง อายุ 40 ปี วิศวกรคอมพิวเตอร์ สัญชาติแคนาดา เชื้อชาติจีน ที่ก่อเหตุเปิดประตูเครื่องบินแอร์บัสเอ 320 ของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG121 เส้นทางเชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ขณะเครื่องบินอยู่ระหว่างเตรียมทำการวิ่งขึ้น จนเกิดความวุ่นวายและทำให้มีเที่ยวบินได้รับผลกระทบทั้งหมด 13 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารได้รับผลกระทบกว่า 2,296 คน โดยจากการคำให้การเบื้องต้นคาดว่านายหว่องจะมีอาการทางจิต

ล่าสุด พ.ต.อ.มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงวันที่ 8 ก.พ. นายหว่องที่อยู่ในห้องคุมขังเกิดอาการเครียดอย่างหนักจนคุ้มคลั่งพยายามทำร้ายตัวเอง โดยพยายามใช้ศีรษะโขกกับกรงเหล็กจนทำให้ศีรษะบวมปูดและยังพยายามกัดหลังมือตัวตัวเอง ทำให้สิบเวรต้องเข้าไประงับเหตุพร้อมกับขอกำลังเพื่อช่วยกันนำตัวไปส่งโรงพยาบาลประสาทให้แพทย์ให้การรักษา ซึ่งจนถึงช่วงเช้าวันนี้ผู้ต้องหาก็ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ ส่วนจะมีอาการทางจิตหรือไม่อย่างไรจะต้องให้แพทย์ทำการวินิจฉัยอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนการฝากขังซึ่งมีกำหนดจะต้องนำไปส่งฟ้องและฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเช้าวันนี้ พ.ต.อ.มนัสชัย บอกว่าพนักงานสอบสวนจะต้องฝากขังไปตามขั้นตอนเนื่องจากมีระยะเวลาการควบคุมตัวไม่เกิน 48 ชั่วโมง โดยจะทำเรื่องส่งฟ้องและฝากขังต่อศาลไปตามขั้นตอน แต่ตัวของผู้ต้องหาจะยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ไปก่อนจนกว่าแพทย์จะให้ความเห็นอีกครั้ง

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นทางพนักงานสอบสวนได้รายงานเรื่องนี้ไปยังสถานทูตแคนาดาประจำประเทศไทยแล้ว หลังจากนี้ก็จะเป็นขั้นตอนของสถานทูตที่จะดำเนินการประสาน ครอบครัวเพื่อแจ้งเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนการดำเนินคดีในขณะนี้ผู้ต้องหายังคงถูกแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.เดินอากาศ ในส่วนของการบินไทย ยังไม่ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนนี้ทางการบินไทยจะต้องพิจารณาว่าเกิดความเสียหายอย่างไรหรือไม่ หากยืนยันพบความเสียหายในส่วนใดก็คาดว่าจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีภายหลัง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook