ช็อตเด็ด! งานเลี้ยงพรรคร่วมคึก นายกฯ แกล้งจุ๊บหยอก "อนุทิน" จนกรี๊ดเขิน

งานเลี้ยงความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล ครม. สส. แห่มาคึกคัก ไร้เงา “ลุงป้อม” ขณะ “นายกฯ” แกล้งจุ๊บหยอก “อนุทิน” จนกรี๊ดเขิน

ในช่วงเย็นวันนี้ (13 ก.พ.) มีงานจัดเลี้ยงเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ภายใต้ชื่อ “ร่วมมือร่วมใจรัฐบาลประชาชน” ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท โดยพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพ โดยการจัดงานเลี้ยงครั้งนี้ เป็นครั้งแรกสำหรับการจัดเลี้ยงสังสรรค์ให้ 314 สส. ในสังกัดของพรรคร่วมรัฐบาล คณะรัฐมนตรีและบรรดาคณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้งเพื่อมาพบปะทำความรู้จักกันและกันตามที่หัวหน้าพรรคและแกนนำแต่ละพรรคเห็นพ้องร่วมกันในวงอาหารมื้อค่ำครั้งที่ 2 ของพรรคร่วมรัฐบาล

เพื่อหวังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ให้สามารถจับมือกันทำงานได้อย่างราบรื่น ทั้งในเวทีฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ เนื่องจาก สส.หลายคนในพรรคร่วมฯ เป็น สส.หน้าใหม่ เช่นเดียวกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ถือว่าเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง จึงจะถือโอกาสนี้ได้ทำความรู้จักกับทุกคนพร้อมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี แกนนำพรรค ผู้บริหารพรรค สส. ยังมีบรรดาข้าราชการการเมือง ที่ได้รับแต่งตั้งในรัฐบาลนี้เข้าร่วมงานด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ปรากฏชื่อของนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ครั้งนี้ ด้วยเช่นกัน แต่ไม่ปรากฏชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แม้วันนี้พล.อ.ประวิตร จะเข้าร่วมประชุมพรรค แต่ก็ ไม่พบรายชื่อมาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการเตรียมสถานที่โดยแบ่งเป็นโซนวีไอพี 2 โต๊ะยาวด้านหน้าเวที และโต๊ะจีนกว่า 300 ที่นั่ง ซึ่งในแต่ละโต๊ะมีการจัดแบ่งสส.คละกันไปในแต่ละพรรค แบ่งเป็นพรรคเพื่อไทย 4 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 3 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมไทยสร้างชาติและพรรคอื่นๆ พรรคละ 1 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีการเตรียมเวทีแสงสีเสียง เครื่องดนตรีชุดใหญ่ พร้อมกับอุปกรณ์เครื่องเสียงไว้เพื่อสร้างความบันเทิงด้วย

สำหรับอาหารมื้อกระชับมิตร เชื่อมสัมพันธ์ ครั้งนี้มีหลากหลายเมนู อาทิ ซุปปลา ราดหน้าทะเล เกี๊ยวกรอบ พิชตาชิโอแซลมอนกับซอสครีมไวน์ขาวแฮมเคลือบน้ำผึ้งกับซอสมัสตาร์ดธัญพืช ราวิโอลี่โฮมเมด พอร์ชินี แอนด์ ชีส สปาเก็ตตี้ปลาหมึก สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศเพ่นเน่ คาโบนาร่าปลาย่างเนยกับซอสครีมฝรั่น กราแตงผักโขมและมันฝรั่งย่าง ข้าวผัดปู คะน้าฮ่องกงผัดกับหอยเป๋าฮื้อ กุ้งแม่น้ำผัดพริกและกระเทียมแกงมัสมั่นเนื้อ

ข้าวผัดคะน้า ข้าวหอมมะลิ ฮ่องกง เห็ดหอยเป่าฮือ ปลาบัตเตอร์ฟิซย่างซอส มันฝรั่งอบ กะเพราะปลาน้ำแดงอาหารญี่ปุ่น-ปลาดิบ พาสต้า อาหารทะเล ไอติมกะทิ และ ผลไม้ ส่วนของหวาน ประกอบด้วย ช็อคโกแลตฟองดู เค้กโรลกำมะหยี่แดงทีรามิสุราสเบอร์รี่ เค้กบราวนี่สตอเบอรี่ ไอศกรีมกะทิ พร้อมทั้งเครื่องดื่มครบครัน ซึ่งงานเลี้ยงเริ่มขึ้นในเวลา 18.00 น.

จากนั้นเวลา 17.30 น. บรรดารัฐมนตรี แกนนำ แต่ละพรรค และสส. ทยอยเดินทางมาร่วมงาน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักรัฐมนตรีคนแรกที่เดินทางมาถึงได้แก่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ตามมาด้วยพรรคร่วมรัฐบาลที่เดินทางมาถึงคนแรกได้แก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้นำทีม สส. สวมเสื้อ ทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดสีเขียวทับด้วยสูท ร่วมงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ด้านลูกพรรคระบุว่าตั้งใจใส่มาเป็นเสื้อทีม

ขณะที่นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส. อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย สวมเสื้อโปโลสีม่วงปีมะแม ภาพฝีพระหัตถ์กรมสมเด็จพระเทพฯ มาร่วมงานพร้อมให้เหตุผลว่า ตนใส่เสื้อมาเพื่อแสดงความจงรักภักดี ในกิจกรรมจุดยืนปกป้อง และถวายกำลังใจ แด่กรมสมเด็จพระเทพฯ บริเวณ ลานสุพรรณิการ์ จังหวัดอุทัยธานี ในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ.)

จากนั้นเวลา 17.50 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางมาพร้อมกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยได้หยุดทักทายนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกษตรและสหกรณ์ ในรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยืนรอรับ พร้อมระบุว่า “ปกติอยู่แต่ที่สูง เลยไม่เห็น” พร้อมชวนให้นายอนุชาไปร่วมเตะฟุตบอล ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ซึ่งนายอนุชา ระบุว่า อยากไปด้วย แต่ติดภารกิจที่ประเทศศรีลังกา

ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะถือป้าย “เมษาอะน่าร้อน…มีเธออ้อนอะน่ารัาก” ร่วมถ่ายภาพโฟโต้บุ๊คกับนายอนุทิน โดยจังหวะหนึ่งได้ทำท่าหยอกล้อเหมือนจะจุ๊บนายอนุทินถึงกับตกใจส่งเสียงกรี๊ด เรียกเสียงฮือฮาจากสื่อมวลชน

ขณะที่นายอนุทิน ถือป้าย “ไม่หล่อแต่โอนไว” โดยได้นำมือมาปิดคำว่าไม่ ให้สื่อที่กำลังบันทึกภาพ ขณะที่นายกรัฐมนตรีไม่เข้าใจว่า คำว่า”โอนไว”หมายถึงอะไร ทำให้นางสาวแพทองธาร ต้องอธิบายว่า “โอนเงินไว” ทำให้นายกรัฐมนตรีหันมาหัวเราะ จากนั้นแกนนำจากพรรคต่างๆ ทยอยเข้าห้องเพื่อเข้าสู่งานเลี้ยง