กกต.มีมติ ยื่นเรื่องเงินอุดหนุน 29 ล้านบาท ให้ศาล รธน.วินิจฉัยโดยตรงอีก

ที่ประชุม กกต.มีมติเสียงเอกฉันท์ มอบหมายให้นายทะเบียนยื่นเรื่องเงินอุดหนุน 29 ล้านบาท ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยตรงอีกหนึ่งช่องทาง พร้อมมีมติให้สำนักกฎหมายและคดีไปดำเนินการพิจารณา ในกรณีที่จะดำเนินคดีอาญาผู้ที่เกี่ยวข้อง

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.วันนี้ มีได้มีการหารือเพิ่มเติมในประเด็น เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาว่าใช้จ่ายไม่ถูกต้องตามเป็นจริง ซึ่ง กกต.ได้มีมติเอกฉันท์เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2553 ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ และให้ส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดพร้อมหลักฐาน โดยที่ประชุม กกต.ได้หารืออีกครั้ง โดยมีมติเอกฉันท์ให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ยื่นประเด็นเงินกองทุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ที่มีมติให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงภายใน 15 วัน ตามมาตรา 93 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง 2550 โดยจะครบกำหนดการส่งเรื่องในวันที่ 26 เมษายนนี้

นายสุทธิพล กล่าวว่า ที่ประชุม กกต. ยังมีมติให้ส่งประเด็นเงินกองทุนฯ 29 ล้านบาทนี้ไปพร้อมกับประเด็นข้อกล่าวหาที่ กกต.มีมติให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกกล่าวหารับเงินบริจาค 258 ล้านบาท จาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านบริษัทเมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด โดยทำสัญญาว่าจ้างทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นนิติกรรมอำพรางไปยังอัยการสูงสุดตามมาตรา 95 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง 2550 ด้วย

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือทวงถามการดำเนินการของ กกต.กรณีเงินกองทุนฯ 29 ล้านบาท และให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ที่กระทำผิดในกรณีดังกล่าวนั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า ตนได้ทำสำเนาแจกจ่ายให้กับที่ประชุม กกต.ได้รับทราบแล้ว ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นให้ตั้งคณะทำงานที่จากสำนักกฎหมายและคดีและสำนักกิจการพรรคการเมืองขึ้นมา เพื่อศึกษาในรายละเอียดและข้อเท็จจริงในการดำเนินคดีอาญากับผู้ที่กระทำผิดที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว