ญาติคาใจตรวจฉี่กันเอง ตร.โรงพักดัง ถีบ จยย.ชาวบ้านผู้หญิง กระหน่ำแทงดับ 1 สาหัส 1

ญาติคาใจตรวจฉี่กันเอง ตร.โรงพักดัง ถีบ จยย.ชาวบ้านผู้หญิง กระหน่ำแทงดับ 1 สาหัส 1

ญาติคาใจตรวจฉี่กันเอง ตร.โรงพักดัง ถีบ จยย.ชาวบ้านผู้หญิง กระหน่ำแทงดับ 1 สาหัส 1
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจพลขับร้อยเวรโรงพักชื่อดัง ถีบ จยย.ชาวบ้านล้ม ก่อนกระหน่ำแทงด้วยมีดปลายแหลม เสียชีวิต 1 สาหัสอีก 1 แต่ตั้งข้อหาเบามาก คือทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และถึงแก่ความตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครศรีธรรมราชว่าเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา 24 กุมภาพันธ์ 67 พ.ต.ต.วันชัย รักบุญเมือง ร้อยเวร สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากพลเมืองดี มีเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มคลั่ง ลงจากแฟลตถือมีด ถีบรถจักรยานยนต์ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ขณะ ขับรถจักรยานยนต์ผ่านหน้าศูนย์ กศน.ตรงข้ามแฟลตตำรวจ ใน จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และอาสาสมัครกู้ภัย

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อ น.ส.ประภา อายุ 69 ปี มีบาดแผลถูกแตงตามใบหน้าและแขนทั้ง 2 ข้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัส และ นส.วิจิตตรา อายุ 51 ปี มีบาดแผลถูกแทงตรงโหนกแก้มทั้ง 2ข้าง แขนทั้ง2ข้าง และแผ่นหลังเกือบ 10 แผล เสียชีวิต ขณะนำส่ง ที่ รพ.

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังพบผู้ก่อเหตุเดินถือมีดก่อนเข้าจับกุมตัวในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อส.ต.อ.ชวนิล ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ป. จ.นครศรีธรรมราช ทำหน้าที่พลขับ รถร้อยเวร30 สภ.ดังกล่าว ในจ.นครศรีธรรมราช

โดยการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ตายและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ได้เดินทางไปแห่ผ้าพระบรมธาตุเมืองนครในวันมาฆบูชาในช่วงเช้า ช่วงบ่ายได้เดินทางมาบ้านญาติ ขณะขับรถอกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมญาติอีกจุดหนึ่ง โดยขับรถผ่านศูนย์การศึกษาตามอัธยาศัย โดยกล้องวงจรปิดจับภาพได้ก่อน ตรงจุดก่อนที่จะถึงที่เกิดเหตุ เมื่อผ่านหน้าเฟลตตำรวจ ถูกส.ต.อ.ชวนิล ถีบรถจักรยานยนต์จนล้มแล้วกระหน่ำแทง ท่ามกลางชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์หลายคน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุ บรรดาญาติของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ได้โทรศัพท์ พร้อมโทรทางแชทเฟซบุ๊กและส่งข้อความให้สื่อมวลชนใกล้เคียงทราบข่าว เนื่องจากเกรงคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะผู้ก่อเหตุ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยนางยอุมาวดี อายุ 49 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยความคับแค้นใจหลังพี่สาวผู้บริสุทธืถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกระหน่ำแทง กล่าวกับผู้สื่อข่าวกลัวคดีไม่ได้รับความเป็นธรรมเกรงพี่สาวจะตายฟรี เพราความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง ยิ่งผู้ก่อนเหตุเป็นตำรวจด้วยยิ่งน่ากลัว ลองคิดดูเพื่อนตำรวจบอกว่าผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจป่วยทางจิต แต่ยังมาปฎิบัตหน้าที่ ทำไมไม่คลั่งแทงตำรวจโรงพักเดียวกัน ไม่ต้องมาฆ่าชาวบ้านผู้บริสุทธิ์

และยังกล่าวอีก ถามตำรวจว่าผู้ก่อเหตุ ชื่ออะไร อยู่โรงพักไหน ทางตำรวจบอกว่าไม่รู้จักชื่อ และไม่รู้ว่าโรงพักไหน แบบนี้จะให้เชื่อใจในการทำงานได้อย่างไร จนกระทั่งญาติได้ไปที่ สภ. เพื่อติดตามว่าตำรวจจับตำรวจที่ก่อเหตุมาจริงหรือไม่ และการจับมาก็ไม่มีการตรวจวัดแอลกออร์หรือตรวจสารเสพติด จนญาติผู้เสียชีวิตคาใจ อยากเห็นหน้าชัดว่าหน้าตาแบบไหน ด้วยความคับแค้นใจ

ขณะผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามแนวทางสอบสวนของคดีหลังจับผู้ก่อเหตุ ในเบื้องต้นชุดสืบสวนระบุสั้นๆว่าได้สอบปากคำเบื้องต้น และควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง ส่วนรายละเอียดต้องรองผู้บังคับบัญชาเดินทางมาให้รายละเอียดอีกครั้ง

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้นำผู้ก่อเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ตอนเช้าตรู่ ก่อนนำตัว มาตรวจร่างกายที่ โรงพยาบาล โดยจังหวะนำตัวออกจากห้องขังผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุที่ได้ก่อแต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมตอบคำถามไดๆ

ซึ่งญาติผู้เสียชีวิต ได้บุกเข้ามาสอบถามด้วยพร้อมทั้งตะโกนด่าและยืนบังหน้าขวางรถตำรวจไม่ให้ออกจากโรงพักและทุบกระจกรถตะโกนสอบถามว่าฆ่าพี่สาวทำไม ก่อนที่ตำรวจจะนำผู้ก่อเหตุมายัง รพ.เพื่อตรวจร่างกาย โดยญาติผู้เสียชีวิตยังตามมาด้วยความข้องใจว่าฆ่าพี่สาวทำไม ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังเข้ามาคุ้มกันที่ รพ.อย่างเร่งด่วน

ต่อมาในช่วงเที่ยงขณะญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บเฝ้ารอดูตำรวจที่ก่อเหตุฆ่า ที่ รพ.เมื่อแพทย์ตรวจเสร็จ ได้นำตัวออกมาโดยอาการไม่สำนึกก่อนรีบนำขึ้นตำรวจเพื่อฝากขังศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยญาติได้ขัดขวางแต่ตำรวจได้ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะเดียวกับญาติผู้เสียชีวิต วิ่งตามแล้วกระโดดเกาะท้ายรถยนต์กระบะตำรวจคันที่บรรทุกผู้ก่อเหตุไปฝากขัง จนเป็นภาพที่น่าหวาดเสียว ญาติเกาะท้ายรถตำรวจด้วยความเร็ว ก่อนผู้สื่อข่าวตำรวจและญาติส่วนหนึ่งวิ่งตาม และขับรถตามไปดักหน้าตำรวจ เพื่อที่ถามว่าฆ่าทำไม

ตำรวจพยายามดึงญาติและขับรถเร็วไปข้างหน้าก่อนที่ญาติได้ขับรถตามประกบและปิดด้านหน้าด้านท้าย จนรถต้องจอด แล้วขู่ญาติบอกว่าเดี่ยวจะโดนข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงาน ก่อนที่จะมีการพูดคุยแล้วเปิดกระจกรถให้ญาติได้ถามว่าฆ่าทำไม

ด้านนายวุฒิชัย อายุ 37 ปี ญาติที่เกาะท้ายรถกระตำรวจ บอกที่ทำไปเพราะอยากถามคนก่อเหตุว่าฆ่าทำไม แต่ตำรวจไม่จอดรถจึงต้องโหนท้ายรถแบบนี้เพื่อความคาใจ ก่อนหน้านี้รองให้ตรวจฉี่ต่อหน้านักข่าว ตำรวจก็ไม่ทำ แอบตรวจฉี่กันเองโดยขั้นตอนนั้น อาจจะมีการหมกเม็ดทำให้คาใจ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าชาวบ้านและครอบครัวของผู้เสียหายหลายคนได้ตั้งข้อสังเกตในการก่อเหตุของผู้ก่อเหตุอาจไม่ใช่แค่เมาสุราอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง และแม้จะอ้างว่าวัดแอลกอฮอร์ในลมหายใจได้ 49 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นก็ตาม ทั้งยืนยันว่าตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกายหรือตรวจปัสสาวะแล้วไม่มีสีม่วง อาจไม่มีความน่าเชื่อถือเนื่องจากอาการที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนคนคุ้มคลั่งจากยาเสพติดฆ่าคนอย่างไร้เหตุผล หรือมูลเหตุจูงใจ และเมื่อถามเจ้าหน้าที่บางคนบอกว่าถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย

แต่เมื่อไปดูเอกสารข้อมูลกลับพบว่า มีการตั้งข้อหาที่เบามาก คือทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษเบากว่าโทษฐานฆ่าคนตายมาก ทั้งที่พฤติการณ์คือการเจตนาเล็งเห็นผลมีการแทงซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้งต่อเนื่อง ในลักษณะเจตนาเดียวกันกับผู้เสียหายทั้งสองคน มีการถีบให้รถล้มก่อนที่จะเข้าไปทำร้าย และมีการใช้อาวุธที่สำคัญกลับยังไม่มีการแจ้งข้อหาเรื่องการพกพาอาวุธมีดด้วยซ้ำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook