ชี้คองโก เป็นเมืองหลวงการข่มขืนของโลก
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์ซี) ว่า เป็น เมืองหลวงการข่มขืนของโลก พร้อมเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ยกเลิกการนิรโทษกรรมให้ผู้กระทำผิดฐานข่มขืน
นางการ์กอต วอลล์สตรอม ผู้แทนพิเศษของยูเอ็น ที่รับผิดชอบด้านต่อสู้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อสตรี และเด็ก ท่ามกลางความขัดแย้ง กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ว่า การที่ผู้หญิงยังคงเผชิญความรุนแรงจากการข่มขืน ไม่ได้มาจากกฎหมายที่คุ้มครองสตรีไม่ดีพอ แต่มาจากการบังคับใช้กฎหมายไม่ดีพอ นางวอลล์สตรอม แนะว่า การยกเลิกการนิรโทษกรมให้ผู้ล่วงละเมิดทางเพศเป็นส่วนสำคัญของอำนาจคณะมนตรี ความมั่นคงยูเอ็น ที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
นางวอลล์สตรอม กล่าวว่า การล่วงละเมิดทางเพศต่อสตรี ยังคงเป็นปัญหาสำคัญของความขัดแย้งในภาคตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตย คองโก ซึ่งเธอเปรียบเป็นเมืองหลวงการข่มขืนของโลก เพราะผู้หญิงไม่มีความปลอดภัยแม้จะอยู่ภายในบ้าน หรือเตียงนอนของตัวเองในช่วงค่ำคืน
องค์การข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ในแต่ละวัน มีผู้หญิง 14 คน ถูกล่วงละเมิดทางเพศในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ทั่วประเทศมีผู้หญิง 1,244 คน ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และช่วง 14 ปีที่ผ่านมา มีการบันทึกกรณีล่วงละเมิดทางเพศอย่างน้อย 200,000 คดี
หน่วยงานบรรเทาทุกข์มักแสดงความวิตกถึงระดับของการนิรโทษกรรม และการไม่ได้รับความเป็นธรรมของเหยื่อผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะพื้นที่ทางตะวันออกที่มีปัญหาการสู้รบ โดย 1 ใน 3 ของคดีล่วงละเมิดทางเพศที่มีการบันทึกเกิดขึ้นในจังหวัดกีวูเหนือ และกีวูใต้ ทางภาคตะวันออก ซึ่งมีผู้ไร้ที่อยู่ราว 1.4 ล้านคน ก่อนหน้านี้ คณะเจ้าหน้าที่ยูเอ็นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก พยายามต่อสู้ปัญหานี้ ด้วยการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่คอยคุ้มกันผู้หญิงไปตลาด ไปหาฟืน หรือน้ำ พัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า ตลอดจนทำงานร่วมกับนายกเทศมนตรีท้องถิ่น