เจ้าของตึกเฮ “เดวิด” ฝรั่งเตะหมอหมดสัญญาเช่า จุดพลุหมื่นนัดฉลอง แฉวีรกรรมสุดจะทน
เจ้าของตึกเฮ “เดวิด” ฝรั่งเตะหมอหมดสัญญาเช่า จุดพลุหมื่นนัดฉลอง แฉวีรกรรมตลอดหลายปีที่เช่า ด่าเก่งสุดๆ
จากกรณีหมอสาวคนหนึ่งออกมาขอความเป็นธรรม โดยบอกว่าถูกชายต่างชาติชาวสวิตเซอร์แลนด์เจ้าของมูลนิธิดัง เตะหลังจนจุก ขณะนั่งชมจันทร์บริเวณหน้าวิลล่าแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ซึ่งต่อมาชายต่างชาติคนดังกล่าวได้ออกมาขอโทษ พร้อมบอกว่า ไม่มีเจตนาที่จะไปเตะ แค่ลื่นล้มแล้วขาไปโดน ซึ่งประเด็นนี้ ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา พร้อมมีการแฉประเด็นอื่นๆ เกี่ยวกับฝรั่งคนดังกล่าวขึ้นมาอีกเพียบ
ล่าสุดเช้าวันนี้ (4 มี.ค.67) ทางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้นำเสนอว่า เจ้าของอาคารพาณิชย์ที่นายเดวิด ชายต่างชาติชาวสวิตเซอร์แลนด์คนดังกล่าว เช่าไว้เปิดมูลนิธิดัง เล่าว่า ช่วงก่อนโควิดนายเดวิดได้มาเช่าตึกแถวทำเป็นออฟฟิศไว้เก็บของ แต่พอหลังช่วงโควิดกลับมาขอเอกสารเพื่อทำเป็นมูลนิธิช้าง แต่ที่ผ่านมาไม่เห็นมีใครมาอยู่อาศัยหรือมาทำงานเหมือนออฟฟิศอื่นๆ แถมยังเปิดแอร์ทั้งวัน และเปิดอุณหภูมิต่ำมากจนแอร์พัง จึงได้มีการเตือนเรื่องเปิดแอร์ไปว่าให้ปรับอุณหภูมิขึ้นอีก
ต่อมา มีคนมาสร้างบ้านข้างๆ เลยต้องย้ายแอร์ ตอนนั้นเจ้าของอาคารบอกว่าพลาดเองที่เข้าไปย้ายโดยไม่ได้แจ้งนายเดวิดก่อน ทำให้นายเดวิดโทรมาต่อว่าและให้ไปขอโทษที่ปางช้าง พาเธอไม่ไปก็ถูกแจ้งความในข้อหาบุกรุก จนต้องไปขอโทษพร้อมขอยกเลิกสัญญาเช่า แล้วโดนนายเดวิดด่าหยาบ
ซึ่งนายเดวิด ได้ขอเช่าต่ออีก 2 เดือน เพราะกำลังจดเป็นมูลนิธิช้าง ตลอดระยะเวลา 2 เดือน เจ้าของอาคารโดนนายเดวิด ด่าตลอด แถมยังบอกจะแจ้งความข้อหาโกงค่าไฟทั้งที่นายเดวิดจ่ายกับการไฟฟ้าโดยตรงทุกเดือน
ล่าสุด หลังจากนายเดวิดย้ายออกจากอาคารดังกล่าว ทางเจ้าของอาคารก็ได้มีการจุดพลุฉลอง กว่า 10,000 นัด
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่บานปลาย โดยขอความร่วมมืออย่าขยายผลไปในทางไม่เหมาะสม เพราะประเทศไทยอยากให้อยู่บนความสงบ เรื่องนี้ได้มีการบริหารจัดการไปแล้ว และส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง และการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมของรัฐ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ตนได้กำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาไปดูแล พร้อมกำชับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่ออยู่ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และพยายามที่จะไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก