เคลียร์ดราม่า "รูปปั้นพญานาค" ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด มาตอบเอง ทำไมใบหน้าปู่เป็นแบบนี้

ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด มาตอบเอง รูปปั้นพญานาค เจอแซวพ่อปู่ร้อนหรือนอนน้อย? ที่ใบหน้าเป็นแบบนี้เพราะมีความหมาย ต้องมองจากมุมนี้!

จากกรณีโลกโซเชียล มีการแชร์ภาพองค์พญานาคราช ความสูง 22 เมตร ความยาวลำตัวจรดหาง 111 เมตร แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของสถานที่ท่องเที่ยวที่อ่างเก็บน้ำธวัชชัย ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด โดยสถานที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากตัวเมืองร้องเอ็ดประมาณ 8 กิโลเมตร และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

ซึ่งมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ถึงลักษณะดวงตาของพญานาค ว่ามีลักษณะเหมือนกับตาปรือ หรือพักผ่อนน้อย หรือบางคนก็บอกว่าอาจจะร้อนแดดเมืองไทย 

• รูปปั้นพญานาค แลนด์มาร์คใหม่ร้อยเอ็ด ชาวเน็ตเห็นหน้าแล้วแซวแรง ปู่ร้อนหรือนอนน้อย?

ล่าสุด วันนี้ (7 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณที่ตั้ง องค์พญาศรีสุทโธนาคราช ซึ่งอยู่ภายในอ่างธวัชชัย ตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

โดยมีนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่ามีกลุ่มชาวบ้านจำนวนหนึ่งนำเครื่องเซ่นไหว้มาแก้บน เพราะได้ประสบความสำเร็จ ในการบนบานศาลได้โชคลาภ และยังมีการบนบานขอให้คุ้มครองงานที่จัดขึ้นให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

นายทรงพล ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสดราม่าทางโลกโซเชียลเรื่องดวงตาและใบหน้าขององค์พญานาคนั้น ในวันนี้ตนก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้ว ก็พบว่าได้ทำตามแบบที่ได้ตกลงไว้

ส่วนใบหน้าของพญานาคนั้น มีแนวคิดในการสร้างคือ พญานาคศรีสุทโธนาคราชสร้างในอ่างเก็บน้ำ จึงต้องออกแบบใบหน้าให้มีความน่าเกรงขาม แต่แฝงไปด้วยความเมตตา มองลงมาที่ผู้มากราบสักการะบูชา เหมือนท่านกำลังมองดูเรา และใบหน้าก็หันไปทางพระธาตุพนมเหมือนกับองค์พญานาคได้กราบไหว้องค์พระธาตุพนมอีกด้วย

ซึ่งภาพที่ถูกเผยแแพร่ออกมาเป็นการถ่ายภาพจากโดรนมุมสูง จึงทำให้คนที่เห็นก็อาจจะคิดเห็นแตกต่างกันไปได้ แต่ตนยืนยันว่าช่างได้ทำตามแบบที่ตกลงไว้ตามสัญญาจ้างไม่ผิดเพี้ยนแต่อย่างใด

ด้าน นายเจษฎา คงสมมาศ ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปกรรม เปิดเผยว่า องค์พญานาคองค์นี้มีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนใคร เหมือนกับการรวบรวมประสบการณ์ของผู้ออกแบบ มาใส่ไว้เพื่อให้เกิดเอกลักษณ์ว่า ถ้าหากมีใบหน้าแบบนี้ จะต้องเป็นสถานที่แห่งนี้

ส่วนกระแสดราม่านั้น ก็มาจากความคิดเห็นที่แตกต่าง หรืออาจจะมองกันคนละแบบเพราะการถ่ายภาพมุมสูง จะทำให้มุมมองของคนที่เข้าไปเห็น เกิดความคิดเห็นที่แตกต่าง ทางผู้ออกแบบก็น้อมรับความคิดเห็นด้วยความเคารพ แต่เชื่อว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของชาวจังหวัดร้อยเอ็ดต่อไป