ประวัติ "นพ.พบสุข ตันสุหัช" ลูกชายอดีต สส. ที่พ่อทิ้งไปตั้งแต่เด็ก แต่เติบโตมาอย่างดี

ประวัติ "นพ.พบสุข ตันสุหัช" ลูกชายอดีต สส. ที่พ่อทิ้งไปตั้งแต่เด็ก แต่เติบโตมาอย่างดี

ประวัติ "นพ.พบสุข ตันสุหัช" ลูกชายอดีต สส. ที่พ่อทิ้งไปตั้งแต่เด็ก แต่เติบโตมาอย่างดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี กัน จอมพลัง ได้โพสต์ตามหาญาติของ นายสม วาสนา อดีต สส.จังหวัดอุดรธานี  ปี 2518-2522 พรรคพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทหลังจากที่ต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน มีอาการฟั่นเฟือน ไร้ลูกหลานดูแล หมอปลาจึงรับมาอยู่บ้านเป็นเวลานานกว่า 5 ปี  ซึ่งต่อมา สามารถตามหาลูกคนที่ 3 ของนายสมพบแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญอย่างเหลือเชื่อ เพราะนายสมมีอาการทางสมอง และลูกชายที่ตามหาจนพบนั้นคือ นพ.พบสุข ตันสุหัช เป็นแพทย์เฉพาะทางด้านโรคประสาท 

ประวัติหมอพบสุข

นพ.พบสุข ตันสุหัช อายุ 38 ปี จบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุ่น 47 ก่อนศึกษาต่อเฉพาะทาง วว.ประสาทวิทยา ปัจจุบันเป็นอายุรแพทย์โรคประสาท โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และเปิดคลินิกรักษาพยาบาล ใน ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อีกด้วย

 

พ่อทิ้งครอบครัวไปนานกว่า 30 ปี

นพ.พบสุข ตันสุหัช เปิดเผยว่า ไม่ทราบว่านายสมเป็นพ่อ เพราะพ่อได้แยกไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่หมออายุได้เพียง 5-6 ขวบ ความทรงจำมีมีเพียงคุณแม่ เติบโตและเล่าเรียนมาได้ตามปกติ จึงไม่ได้มีการติดต่อไปยังคุณพ่อเลยตลอดทั้งชีวิต กว่า 30 ปีที่ผ่านมา 

หลังได้รับการติดต่อจนได้รู้ว่าพ่อที่แท้จริงเป็นใครอยู่ที่ไหน นพ.พบสุข ก็พร้อมที่จะดูแลในฐานะลูก และในฐานะแพทย์ ซึ่งในวันที่ 13 มีนาคม 2567 นพ.พบสุข ได้เดินทางไปพบคุณพ่อครั้งแรกรอบ 33 ปี แต่ผู้เป็นพ่อจำลูกชายไม่ได้ 

ใช้ความรู้ที่เรียนมารักษาพ่อ

นพ.พบสุข กล่าวว่า จากการพูดคุยกับคุณพ่อ น่าจะมีปัญหาสมองเสื่อม อาจจะไม่เยอะมาก ระดับกลาง แต่ปัญหาที่โดดเด่นคือมีหลงผิด หูแว่ว บางครั้งมีการพูดคนเดียว ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของโรคสมองเสื่อม หรือมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิตร่วมด้วย เนื่องจากความเครียด อาจจะโดนทิ้งหรือไม่ ที่ทำให้ป่วยทางจิตเพิ่มเติม แน่นอนว่าการรักษาก็ต้องดำเนินการไป หลักๆ คือตอนนี้คือเรื่องการทานยา ตนได้แพลนกับทีมงานและปรึกษาคุณหมอจิตแพทย์ด้วยว่า จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งก็จะจัดสูตรยาให้ และต้องให้ท่านกินยา แต่ท่านแอนตี้ยา แต่ต้องหลอกล่อให้กินยา เพราะถ้าไม่กินก็จะทำให้อาการไม่ดีขึ้น จะพยายามประสานกับทีมรักษา ดูแลว่าจะรักษาอย่างไร ซึ่งคนที่คุณพ่อเชื่อคือหมอปลา แต่เนื่องจากอายุเยอะจะใช้ยาแรงไม่ได้ ต้องไปช้าๆ ไม่มีผลข้างเคียง อาจไม่ถึงขั้นหาย แต่ว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook