เปิดชีวิต “ขุนเดช” ศิลปินเพลงจิตเวช แต่งเพลงดังชั่วข้ามคืน ยอดวิวพุ่งกว่า 3 ล้านวิว
ถอดหัวใจ “ขุนเดช” ศิลปินเพลงจิตเวชชั่วข้ามคืน 3 ล้านวิวกลับมาได้ด้วยสติและเสียงเพลง
ที่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 10 บ้านโคกกว้าง ต.มหาไชย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของ “ขุนเดช” นายเดช ธรรมประชา อายุ 44 ปี บุคคลในคลิปไวรัล 3 ล้านวิว พบว่ามีฝ่ายปกครองอำเภอสมเด็จ และผู้ใหญ่บ้าน มาติดตามให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าตัวมีท่าทีสบายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข โดยจะนำกีต้าร์คู่ใจพร้อมสมุดที่แต่งเพลงไว้มาอวดด้วยความภูมิใจ จากนั้นก็ดีดกีตาร์ร้องเพลงให้ฟัง ซึ่งเป็นในแนวเพลงเพื่อชีวิตที่แต่งและคิดทำนองขึ้นเอง
นายธานินทร์ วงศ์ศรีดา ผู้ใหญ่บ้านโคกกว้าง หมู่ 10 ต.มหาไชย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า นายเดชเป็นลูกบ้านตนเอง เคยแต่งงาน มีครอบครัว แต่ได้หย่าร้างกับภรรยาแล้วหลายปี เนื่องจากนายเดชเคยมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด บางครั้งมีพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง ถึงขั้นจะทำร้ายคนในครอบครัว จึงได้รายงานไปที่ฝ่ายปกครอง คัดกรองพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเข้ามาดำเนินการบำบัดฟื้นฟูและส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทยและนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์
นายธานินทร์กล่าวอีกว่า หลังฝ่ายปกครองและผู้นำชุมชนเข้ามาดำเนินการบำบัดฟื้นฟู ตามแนวทางทางการดำเนินงานการบำบัดฟื้นฟูโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน และแนวทางปฏิบัติ CBTx ของกระทรวงมหาดไทย จากการประเมินภาวะอารมณ์และพฤติกรรมของนายเดช พบว่าดีขึ้นตามลำดับ โดยนิสัยส่วนตัวเขาค่อนข้างเป็นคนขี้อาย ชอบหาที่สงบๆ นั่งคิดเพลง เขียนเพลง เล่นกีตาร์อยู่คนเดียว ชาวบ้านที่ผ่านมาเห็นและได้ยินก็ออกปากชมว่าเพราะดี น่าฟัง ก่อนที่ปลัดอำเภอและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจะมาพบเห็น และถ่ายคลิปแชร์ในโซเชียล จนกลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน 3 ล้านวิวดังกล่าว พอถึงวันนี่ที่เขากลายเป็นคนดังในโลกออนไลน์ จึงมีคนตั้งฉายาให้เขาใหม่ จากที่เคยเรียก “ขุนเดช” เป็น “ขุนเดช มหาไชย”
ด้านขุนเดช มหาไชย หรือนายเดช ธรรมประชา ซึ่งมีอากัปกิริยาเทียบเท่าคนปกติ แต่ยังติดอาการเขินอายเล็กน้อย และพูดจานอบน้อมถ่อมตนตามบุคลิกของเขา กล่าวว่า ตนเรียนจบ ม.6 เคยมีคนรัก มีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกสาว 1 คน ต่อมาตนหลงผิด ชีวิตจึงเปลี่ยนทิศเดินหลงทาง ทำครอบครัวแตกหัก โชคดีที่สังคมยังให้โอกาส ด้วยการโอบอุ้มของฝ่ายปกครองและผู้นำชุมชน หมั่นมาเยี่ยมยาม ให้กำลังใจ ตามแนวทางดำเนินงานการบำบัดฟื้นฟูโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ในขณะที่ตนก็พยายามกลับตนเป็นคนดี ทั้งนี้ มีกีตาร์และเสียงเพลงคอยปลอบประโลมใจ จึงทำให้มีวันนี้ และได้รับโอกาสดีๆ จากหลายๆฝ่าย ที่จะเข้ามาปรับเปลี่ยนชีวิตตนให้ดีขึ้น
ขุนเดชกล่าวอีกว่า สิ่งที่ดึงตนกลับมามีสติสัมปชัญญะได้ ขอพูดเลยว่าเพราะการดำเนินงานการบำบัดฟื้นฟูโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนดังกล่าว ตนเองก็ใช้เวลาในแต่ละวันคิดเพลง คิดทำนอง จับคอร์ด เล่นกีตาร์ แบบว่าเพียงได้หยิบสมุด ปากกา คิดถ้อยคำสำนวนออกมาเป็นคำร้อง และหยิบกีตาร์ขึ้นมาจับคอร์ดเท่านั้น อารมณ์ก็เปลี่ยนเป็นสงบ และสุนทรี เอาเรื่องราวในอดีตส่วนตัว เรื่องใกล้ตัว เรื่องที่เกิดขึ้นในสังคม มาคิดมาร้อยเรียงเป็นบทเพลง บอกผ่านความรู้สึกและบทเรียน ทางเสียงเพลงเสียงกีต้าร์ ที่เขียนเอง ร้องเอง ทำให้ตนกลับมาถึง ณ จุดนี้ ด้วยหัวใจของลูกผู้ชาย ที่พร้อมจะกลับมามีพลังฮึดสู้อีกครั้งหนึ่ง
“ขอขอบคุณทุกฝ่าย ทุกคน ที่ให้กำลังใจผมมาโดยตลอด ในส่วนมีค่ายเพลงมาติดต่อเพื่อเป็นศิลปินในสังกัดนั้น เป็นสิ่งที่เกินความคาดฝันของตน หากเป็นจริงก็ถือเป็นความโชคดีมากๆ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องของอนาคต ส่วนตนก้าวมาถึงจุดนี้ได้ อันดับแรกคือการที่ยังมีจิตสำนึกและหัวใจที่เข้มแข็ง รวมทั้งมีดนตรีในหัวใจ หากผ่านการประเมินทั้งด้านจิตใจ ด้านภาวะอารมณ์ และหากมีโอกาสก็จะใช้ความสามารถด้านเขียนเพลง เล่นกีต้าร์ร้องเพลง เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองต่อไป ในช่วงนี้ หากไม่มีใครมาแวะเยี่ยม ถามไถ่ ก็คงดำเนินชีวิตตามปกติ ด้วยการรับจ้างทั่วไป และเวลาว่างเขียนเพลง เล่นกีตาร์ ตามแนวทางที่ตนถนัดและเลือกทางเดินชีวิตให้ตนแล้ว” ขุนเดช มหาไชยกล่าวในที่สุด