เปิดประวัติ "เชฟเอียน" จากลูกแม่ค้าขายข้าวแกง เด็กล้างหม้อครัวโรงแรม สู่เชฟระดับโลก

เปิดประวัติ "เชฟเอียน" จากลูกแม่ค้าขายข้าวแกง เด็กล้างหม้อครัวโรงแรม สู่เชฟระดับโลก

เปิดประวัติ "เชฟเอียน" จากลูกแม่ค้าขายข้าวแกง เด็กล้างหม้อครัวโรงแรม สู่เชฟระดับโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดประวัติ "เชฟเอียน" จากลูกแม่ค้าขายข้าวแกง เด็กล้างหม้อครัวโรงแรม สู่เชฟระดับโลกผู้สร้างตำนาน "คนไทยคนแรก"

ในยุคนี้แฟนรายการแข่งขันทำอาหาร คงไม่มีใครไม่รู้จัก "เชฟเอียน" พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย เชฟแถวหน้าของประเทศไทย มีชื่อเสียงจากการเป็นเชฟกระทะเหล็กประจำรายการเชฟกระทะเหล็ก ก่อนมาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง หลังเป็นกรรมการในรายการแข่งขันทำอาหารระดับประเทศ อาทิ มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ท็อปเชฟไทยแลนด์ และล่าสุดกับรายการ เฮลล์คิทเช่นไทย

ด้านชีวิตส่วนตัว ได้เข้าพิธีสมรสกับนางสาวซาร่าห์ ชาง ชื่อปัจจุบันคือนางซาร่าห์ เฉลิมกิตติชัย หญิงสาวชาวฮ่องกง มีบุตรด้วยกัน 2 คน ซึ่งลูกคนโตเรียนเกี่ยวกับอาหาร แต่เกี่ยวกับการบริหารไม่ได้เป็นเชฟ ส่วนลูกคนเล็กมีความตั้งใจเรียนทำอาหารตามรอยคุณพ่อ

เส้นทางสู่การเป็นเชฟระดับโลก

ประวัติ "เชฟเอียน" พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย ปัจจุบันอายุ 56 ปี เป็นบุตรชายคนเดียวในจำนวนพี่น้องทั้ง 8 คน โดยเชฟเอียนเป็นลูกคนที่ 7 ในวัยเด็กเขาช่วยแม่ขายข้าวราดแกงรถเข็นที่ซอยสุขุมวิท เส้นทางความสำเร็จด้านการทำอาหารของเชฟเอียน จึงมาจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่กรุงเทพฯ ทุกเช้าเชฟเอียนจะตื่นนอนตั้งแต่ตี 3 เพื่อไปตลาดสดเป็นเพื่อนแม่ เลือกซื้อเนื้อสัตว์ อาหารทะเล และผักที่สดที่สุดมาทำอาหารสำหรับขายแถวบ้าน ขณะเชฟเอียนไปเรียน แม่จะทำแกงหลากหลายประเภทเตรียมไว้ เมื่อกลับถึงบ้าน เขาก็จะเข็นรถไปขายแกงแถวบ้าน 

 

จนใน พ.ศ.2524 ครอบครัวได้กู้เงินให้เชฟเอียนไปเรียนภาษาอังกฤษที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยต้องทำงานพิเศษควบคู่ไปกับการเรียน เริ่มต้นจากการล้างจาน ล้างหม้อ ที่ Waldorf Hotel THF ก่อนเป็นพนักงานเสิร์ฟ และเข้าช่วยเชฟใหญ่ จนเมื่อช่วงที่ผู้ช่วยเชฟขาดงาน เขาก็ได้รับชวนให้เป็นผู้ช่วยเชฟใหญ่ ผู้จัดการเสนอให้เขาไปเรียนทำอาหารมาก่อนทำหน้าที่เชฟ แต่ระหว่างเรียนเขาประสบอุบัติเหตุถูกรถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชน และพักรักษาในโรงพยาบาลหลายสัปดาห์ เป็นเหตุให้หมดสิทธิ์สอบและเรียนไม่จบ

จากนั้นเขาเดินทางไปช่วยพี่สาวทำร้านอาหารที่ประเทศออสเตรเลีย ก่อนจบการศึกษาด้านการทำอาหารที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ก่อนจะไปฝึกงานที่ Claude’s ร้านอาหารเลื่องชื่อเป็นเวลาหลายปี ซึ่งร้านอาหารแห่งนี้ทำให้เชฟเอียนได้ซึมซับการทำอาหารฝรั่งเศสแบบ Fine Dining มาอย่างเต็มอิ่ม ช่วงนี้เขาได้มีโอกาสฝึกฝนการทำอาหาร พร้อมตระเวนเป็นเชฟตามที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ประเทศออสเตรเลียไปจนถึงประเทศฝรั่งเศส

คนไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่ง Executive Chef ในโรงแรมระดับห้าดาว

ปี 1993 เชฟเอียนตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย โดยเข้าทำงานในตำแหน่ง Demi Chef ที่โรงแรมเก่าแก่ Four Seasons Hotel Bangkok (ก่อนหน้านี้คือ The Regent) และเลื่อนขั้นแบบก้าวกระโดดพร้อมๆ กับฝึกฝนความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารที่หลากหลาย ทั้งยังคว้ารางวัลการแข่งขันทำอาหารระดับนานาชาติมากมาย ปี พ.ศ.2541 เขาขึ้นแท่นเชฟชาวไทยคนแรกของโลกที่ได้รับตำแหน่ง Executive Chef ในโรงแรมระดับห้าดาว เส้นทางสายอาชีพที่เชฟเอียนสั่งสมจากโรงแรมในเครือ Four Seasons นำทางเขาไปสู่การแลกเปลี่ยนและเรียนรู้การทำอาหารทั่วโลก ขัดเกลาพรสวรรค์และศาสตร์การทำอาหารของตนเองให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น การร่วมงานที่ร้านอาหารและโรงแรมอย่าง George V ในปารีส, The French Laundry ในนาปา แวลลีย์, El Bulli ในสเปน และ Four Seasons Chinzanso ในโตเกียว เปิดโอกาสให้เชฟเอียนได้แสดงศักยภาพและความสามารถด้านการทำอาหารของตนเองอย่างเต็มที่

ปี 2004 เชฟเอียนย้ายไปใช้ชีวิตในนิวยอร์กและทำธุรกิจร้านอาหารชื่อ Kittichai Restaurant ขณะบริหารร้านอาหารที่นั่น Kittichai Restaurant ได้รับเลือกให้ติดอันดับในลิสต์สุดยอดร้านอาหารเอเชียนแห่งใหม่ประจำปี 2005 (Best New Asian Restaurants 2005) จากนิตยสาร Food & Wine, ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสุดยอดร้านอาหารแห่งใหม่ในสหรัฐอเมริกาประจำปี 2004 (Best New American Restaurants 2004) จากนิตยสาร Travel + Leisure 

ปี 2008 เชฟเอียนก่อตั้งบริษัทจัดการและให้คำปรึกษาด้านอาหารและเครื่องดื่มระดับนานาชาติ Cuisine Concept Co., Ltd. นอกจากจะมีลูกค้าเป็นโรงแรม ร้านอาหาร และบริษัทผลิตอาหารมีชื่อเสียงในระดับโลกแล้ว Cuisine Concept ยังให้บริการแล็บห้องครัว บริการมื้ออาหารสุดไพรเวต บริการพื้นที่สำหรับฝึกอบรม รวมถึงพื้นที่สำหรับจัดงานในกรุงเทพฯ อีกด้วย

เดือนมิถุนายน ปี 2011 เชฟเอียนร่วมเป็นหุ้นส่วนและรับหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารที่ Spot Dessert Bar ในนิวยอร์กซิตี้ ต่อมาในเดือนธันวาคม ปี 2011 เขาเปิดตัว Issaya Siamese Club ร้านอาหารไทยและเลานจ์ซึ่งเป็นร้านอาหารแฟลกชิปของตนเองเป็นแห่งแรกในกรุงเทพฯ ร้านนี้ได้รับการจัดให้อยู่ในลิสต์ 50 สุดยอดร้านอาหารในเอเชีย สนับสนุนโดย S. Pellegrino และ Aqua Panna มาโดยตลอด

จุดเริ่มต้นในวงการรายการโทรทัศน์

เดือนมกราคม ปี 2012 เชฟเอียนเปิดตัวในฐานะหนึ่งในเชฟกระทะเหล็กประจำของรายการ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย (Iron Chef Thailand

ปี 2013 เชฟเอียนยังเป็นสมาชิกสภาก่อตั้งของสภาอาหารริมทางโลก (The World Street Food Congress) ร่วมกับแอนโธนี บัวร์เดน ผู้ล่วงลับ, เคเอฟ ซีโตห์, คลอส เมเยอร์ และผู้มีชื่อเสียงด้านการทำอาหารท่านอื่นๆ ในเดือนกันยายน ปี 2013 องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization) กรมทรัพย์สินทางปัญญา และ Agence Francaise de Developpement ยกย่องเชฟเอียนให้เป็น Geographical Indication Ambassador คนแรกของเอเชีย

นอกจากนี้ในปี 2013 เชฟเอียนยังได้ร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่อง My Father's Menu เมนูของพ่อ ร่วมกับ พิง ลำพระเพลิง และ บิลลี่ โอแกน

ต่อมาในเดือนเมษายน ปี 2015 เชฟเอียนได้รับประดับอิสริยาภรณ์เกียรติยศสาขาเกษตรระดับสูง Officierdu Mérite Agricole จากสาธารณรัฐฝรั่งเศส จากการอุทิศตัวอย่างมุ่งมั่นให้แก่วิทยาการทำอาหารและเกษตรกรรม

เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 เชฟเอียน เปิดร้านอาหารประเภท Fine Dining ที่มาพร้อมบรรยากาศสบายๆ ในชื่อ Khum Hom (คำหอม) ที่ Movenpick BDMS Wellness Resort รีสอร์ทเพื่อการดูแลสุขภาพอันหรูหราใจกลางกรุงเทพฯ ณ บ้านปาร์คนายเลิศ พร้อมนำเสนออาหารไทยต้นตำรับประจำภูมิภาค โดยเน้นการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติและท้องถิ่น

เชฟเอียนยังรับหน้าที่เป็นหนึ่งในกรรมการหลักของรายการแข่งทำอาหารชื่อดัง อย่าง MasterChefThailand และ MasterChef Junior Thailand ทั้งยังเคยปรากฏตัวร่วมรายการต่างๆ เช่น รายการ Somebody Feed Phil ของฟิล โรเซนธอล ที่ออกอากาศทางเน็ตฟลิกซ์ 

 

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ เปิดประวัติ "เชฟเอียน" จากลูกแม่ค้าขายข้าวแกง เด็กล้างหม้อครัวโรงแรม สู่เชฟระดับโลก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook