จุฬาฯ ยอมรับมีผู้ป่วยที่ย้ายหนีม็อบเสียชีวิต 2 ราย

รพ.จุฬาฯ ยอมรับมีผู้ป่วยมะเร็งเสียชีวิต หลังย้ายสถานที่รักษาตัว 2 ราย ขณะที่ตลอดทั้งวัน มีผู้ป่วยสมัครใจกลับมารักษาที่ รพ.อย่างต่อเนื่อง ส่วนบรรยากาศย่านสีลมกลับมาคึกคัก ร้านค้าเปิดบริการตามปกติ หลังเจ้าหน้าที่ได้ปลดรั้วลวดหนามที่ใช้ขึงกั้นบนแนวฟุตบาทออกบางส่วน

บรรยากาศที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ได้ทยอยขนย้ายผู้ป่วยที่ถูกส่งไปรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายนกลับเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ โดยทั้งหมดเป็นผู้ป่วยที่สมัครใจและจะนำตัวไปพักที่อาคารฝั่งถนนอังรีดูนังต์ ซึ่งเป็นจุดที่ปลอดภัยจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง

นพ.สมรัตน์ จารุลักษณานันท์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวผู้ป่วยที่ถูกขนย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอื่นเสียชีวิต 2 ราย โดยยอมรับว่ามีคนไข้อาการหนักเสียชีวิต 2 รายจริง โดยรายแรกชื่อ นายทวนทอง วิทยาชีวะ อายุ 70 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งขณะที่มีการขนย้ายหัวใจได้หยุดเต้นไปชั่วขณะ จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจช่วยชีวิตไว้ ก่อนส่งไปรักษาตัวต่อที่ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ญาติได้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลแล้ว ส่วนอีกรายชื่อ นางประพิง บัวจันทร์ อายุ 61 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ญาติเคยติดต่อขอรับตัวผู้ป่วยกลับไปพักที่บ้าน แต่ถูกขนย้ายไปรักษาที่ รพ.พระนั่งเกล้าฯ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลดังกล่าว

นพ.สมรัตน์ ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการรับผู้ป่วยหนักทั้งหมดกลับเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ว่า คงไม่สามารถทำได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ป่วย อีกทั้งขณะนี้โรงพยาบาลยังไม่ได้เปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบทุกแผนก จึงอาจไม่สะดวกในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยบางราย

มีรายงานว่า ในเวลา 18.00 น. วันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.) ตัวแทนผู้บริหารของโรงพยาบาลจุฬาฯ จะนำพวงหรีดไปคารวะศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวรายละ 10,000 บาทด้วย

สำหรับบรรยากาศที่ถนนสีลมเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ปลดรั้วลวดหนามที่ใช้ขึงกั้นบนแนวฟุตบาทออกบางส่วน ทำให้ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และแผงลอยกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศออกมาจับจ่ายใช้สอย อย่างไรก็ตาม ยังมีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารตลอดแนวถนน