มาแล้ว! "ดาบตำรวจ" รุดให้ปากคำคดีลุงเปี๊ยก อัยการมั่นใจหลักฐานเด็ด มัดก๊วนตำรวจได้

มาแล้ว! "ดาบตำรวจ" รุดให้ปากคำคดีลุงเปี๊ยก อัยการมั่นใจหลักฐานเด็ด มัดก๊วนตำรวจได้

มาแล้ว! "ดาบตำรวจ" รุดให้ปากคำคดีลุงเปี๊ยก อัยการมั่นใจหลักฐานเด็ด มัดก๊วนตำรวจได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ดาบตำรวจ สภ.อรัญประเทศ” 1 ราย พยานสำคัญคดีลุงเปี๊ยก ผู้รู้เห็นเหตุการณ์ รุดเข้าให้ปากคำ DSI ด้าน “รองโฆษกอัยการสูงสุด” มั่นใจพยานหลักฐานเด็ดทุกรายการ สามารถมัดก๊วนตำรวจได้ ส่อผิด พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

วันนี้ (20 มี.ค.67) ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม นายคณพ ปิ่นทอง ผอ.ส่วนสอบสวนการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย 1 และนายน้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด (นายอดิศร ไชยคุปต์) ร่วมกันสอบปากคำพยาน 1 รายจากทั้งหมด 2 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ

นายวัชรินทร์ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมสอบปากคำพยาน ว่า การเรียกสอบปากคำพยานในวันนี้เกิดจากช่วงที่ผ่านมา เราได้มีการเข้าไปสอบปากคำลุงเปี๊ยกที่โรงพยาบาล ปรากฏว่าลุงเปี๊ยกให้การเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะไม่มีอาการของการติดสุรา อีกทั้งแพทย์ก็รับรองว่าลุงเปี๊ยกหายดีแล้ว เราจึงทำการสอบสวนได้ ซึ่งในขั้นตอน ลุงเปี๊ยกได้มีการชี้ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุไม่ว่าจะเป็นช่วงการควบคุมตัวและช่วงการสอบปากคำ มีทั้งตำรวจชั้นประทวนที่อยู่ใน สภ.อรัญประเทศ

ดังนั้น การชี้ภาพบุคคลที่เกิดขึ้นจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คณะพนักงานสอบสวนต้องทำการสอบปากคำพยานเพื่อจะได้นำข้อมูลหรือถ้อยคำของพยานไปขยายความต่อ โดย 2 นายตำรวจในวันนี้ที่ถูกเชิญมาให้ปากคำในฐานะพยานนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ลุงเปี๊ยกชี้ภาพ แต่อีกส่วนก็มาจากการที่เราสอบสวนลุงเปี๊ยก เพราะลุงเปี๊ยกได้บ่งชี้ให้รู้เลยว่าใครอยู่ในห้องสืบสวนบ้าง ทั้งนี้ การสอบปากคำพยานจึงแบ่งเป็นรอบเวลา 10.00 น. เป็นนายตำรวจชั้นประทวน 1 ราย ส่วนในรอบเวลา 13.00 น. จะเป็นนายตำรวจ 1 ราย

สำหรับประเด็นที่จะใช้สอบปากคำพยานนั้น นายวัชรินทร์ ระบุว่า มีบุคคลใดทำอะไรกับลุงเปี๊ยกในวันเกิดเหตุบ้าง ใครเกี่ยวข้องอีกบ้าง ถึงแม้ว่าเราจะมีพยานหลักฐานที่ได้มาจากการสอบถามลุงเปี๊ยกแล้วก็ตาม แต่ข้อมูลที่เราจะได้รับในวันนี้จะช่วยขยายเพิ่มเติมจากสิ่งที่ลุงเปี๊ยกได้ให้การไว้ นอกจากนี้ ตนจะแยกให้เป็น 2 กลุ่มชัดเจน คือ 1.กลุ่มประจักษ์พยาน (กลุ่มที่เห็นเหตุการณ์ตอนมีการทำร้าย)

และ 2.กลุ่มพยานแวดล้อม (กลุ่มที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์) ซึ่งนายตำรวจทั้ง 2 รายนี้อยู่ในกลุ่มพยานแวดล้อม ส่วนจะมีบุคคลใดต้องเข้าให้การเพิ่มเติมในฐานะพยานอีกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับถ้อยคำให้การและพยานหลักฐาน แต่ตนมีความตั้งใจว่าบุคคลถัดไปที่จะเรียกสอบปากคำก็คือผู้สื่อข่าวช่องดัง (นักข่าวช่อง 8 ผู้ที่ไล่กล้องวงจรปิดจนพบความจริงว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคือเยาวชน)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook