ช็อกสภาพศพ! สุดโหด "โกหมาส" ถูกฝังดินในบางขัน พันธนาการแน่นหนา ถูกราดน้ำกรดซ้ำ
พบแล้ว! ศพ “โกหมาส”ถูกฝังดินในบางขัน สภาพสุดโหดพันธนาการแน่นหนา คาดถูกราดน้ำกรดซ้ำ
เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พลตำรวจตรีนภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พันตำรวจเอกพิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน กก.สืบสวนภูธรนครศรีธรรมราช และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สามารถระบุพิกัดจุดฝังศพของนายโกหมาส อายุ 56 ปี เจ้าของสนามชนไก่ ต.สวี อ.สวี จ.ชุมพรและ โดยการสืบสวนพบข้อมูลว่าคนร้ายได้นำศพมา
ฝังบริเวณใกล้ต้นไม้ใหญ่ท้ายสวนปาล์มบนหุบเขาบริเวณ หมู่ 2 ต.บ้านลำนาว รอยตต่อกับ หมู่ 11 ต.บางขัน อ.บางขัน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตลอดทั้งวันในการค้นหาจนกระทั่งพบจุดต้องสงสัยจึงทำการเปิดดินจากร่องรอยคล้ายถูกขุดกลบจนพบมีกลิ่นโชยออกมากจึงมั่นใจว่าเป็นศพจึงมีการขุดค้นเมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยการขุดค้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ได้เข้าทำการขุดโดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าคอยเก็บหลักฐานที่พบอย่างละเอียด จนกระทั่งสามารถกู้ศพขึ้นมาได้ สภาพยังมีเชือกมัดเท้า มัดมือไพล่หลัง มีเทปกาวพันบริเวณใบหน้า ยังพอจำเค้าหน้าได้ สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงินขาสามส่วน ช่วงกลางลำตัวเปื่อยยุ่ยสันนิษฐานว่าจะถูกน้ำกรดเข้มข้นตามที่พบหลักฐานแกลลอนก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงเร่งกู้ศพโดยแพทย์เวรชันสูตร รพ.บางขัน นครศรีธรรมราช ต้องส่งศพไปยังศูนย์นิติเวช รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช เพื่อชันสูตรอย่างละเอียด รวมทั้งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลให้ชัดเจน
พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่าแม้จะเชื่อว่าเป็นศพของนายขนบก็ตาม แต่ขั้นแรกหลังพบศพคือเจ้าหน้าที่ต้องระบุอัตลักษณ์บุคคลให้ชัดเจน และชันสูตรสาเหตุการตาย ส่วนทางคดีนั้นต้องดำเนินการเชื่อมโยงกันทั้งชุมชมพร นครศรีธรรมราช และจุดพบรถริมฝั่งโขงต่อเนื่องกัน สำคัญคือจะต้องระบุพื้นที่ก่อเหตุการณ์ทำให้ตายนั้นเกิดขึ้นที่ไหนอย่างไร
ขณะที่ชุดสืบสวนรายหนึ่งเปิดเผยข้อมูลว่าทีมสังหารนายขนบหรือโกหมาสนั้นแท้ที่จริงเจ้าหน้าที่ได้จับกุมก่อนหน้านี้หมดทั้ง 3 คนแล้ว เป็นคนในพื้นที่อำเภอทุ่งสง อำเภอบางขัน แต่เป็นคดีอื่นเช่น พรบ.อาวุธปืน คดีลักทรัพย์ และคดียาเสพติด คดีที่ถูกจับนั้นได้ถูกประกันตัวไปแล้วทั้งหมดส่วนคดีลักพาตัวและฆาตกรรมนั้นไม่สามารถออกหมายจับได้
ในขณะนั้นเนื่องจากไม่มีศพ แต่หลังจากพบศพแล้วพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องจะได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมเพิ่มเติม ส่วนซากรถที่พบก่อนหน้านี้เชื่อว่าเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุและบรรทุกศพ อาจะมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะเลือกจำนวนมากจึงถูกรื้อทำลายแยกส่วน ส่วนที่เผาได้จึงถูกเผาเพื่อทำลายหลักฐานนั่นเอง