ปิดคดี ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก12 ปี ลูกสาวอาม่าฮวย ลักทรัพย์บุพการี 24 ล้าน

ปิดคดี ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก12 ปี ลูกสาวอาม่าฮวย ลักทรัพย์บุพการี 24 ล้าน

ปิดคดี ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก12 ปี ลูกสาวอาม่าฮวย ลักทรัพย์บุพการี 24 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุกจำเลย 12 ปี ลูกสาวอาม่าฮวย ลักทรัพย์บุพการี 24 ล้านบาท แอบถอนเงินตอนแม่นอนป่วย

(3 เม.ย.2567) ศาลอาญาพระโขนง อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่ นางฮวย หรือ อาม่าฮวย อายุ 86 ปี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางมาวดี บุตรสาว อายุ 57 ปี จำเลยในข้อหาลักทรัพย์ กรณีแอบถอนเงินในบัญชีของนางฮวยกว่า 24 ล้านบาท และถ่ายโอนทรัพย์สินอื่น ๆ ระหว่างที่นางฮวย นอนพักฟื้นรักษาตัวด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบที่โรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อปี พ.ศ.2560

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง สั่งจำคุก 12 ปี ไม่รอลงอาญา ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก 12 ปี แต่จำเลยยื่นฎีกาต่อ

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของนางฮวย เปิดเผยว่า จำเลยขอต่อสู้ในข้อกฎหมาย ประเด็นว่า คดีลักทรัพย์บุพการี เป็นคดียอมความได้ รวมถึงจะต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน ซึ่งทางนางฮวยก็ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน คดีจึงไม่ขาดอายุความ ศาลฎีกาจึงพิพากษายืนจำคุกนางมาวดี 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา และยังถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ไม่เคยมีฎีกามาก่อน ในคดีเกี่ยวกับการลักทรัพย์บุพการี ที่จะต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน

ย้อนคดีอาม่าฮวย

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2562 นางฮวย ศรีวิรัตน์ หรือ อาม่าฮวย ในตอนนั้น อาม่า อายุ 82 ปี ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช หลังถูก นางมาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวแท้ๆ ปลอมเอกสารเปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกถอนเงิน จากการลงลายมือชื่อ เป็นการพิมพ์ลายนิ้วมือ โดยร่วมมือกับพนักงานธนาคาร เบิกถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารหลายบัญชี และเงินในกองทุนไปอีกเป็นจำนวนมาก

ต่อมา อาม่าฮวย มารู้ทีหลังว่าเงินในบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง หายไป 24 ล้านบาท และเมื่อตรวจสอบไปยังบัญชีอื่น ก็พบว่าเงินในบัญชีธนาคารอีกแห่ง หายไปอีก 2 บัญชี เป็นเงิน 111 ล้านบาท และ 97 ล้านบาท และเงินในกองทุนเปิดของบริษัทหลักทรัพย์ หายไปอีก 30 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่หายไปกว่า 260 ล้านบาท แต่เรื่องนี้ นางมาวดี ลูกสาวของอาม่าฮวย เธอก็ยืนยันว่า เงินที่หายไปไม่ใช่การลักทรัพย์ แต่เป็นการรับทำธุรกรรมทางการเงินแทน เนื่องจากอาม่าฮวยป่วย และเรื่องนี้ก็ได้รับความยินยอมจากอาม่าฮวย ผู้เป็นแม่ของตนเองแล้ว ส่วนเงินในบัญชี นางมาวดี ยืนยันว่ามีแค่ประมาณ 120 ล้านเท่านั้น ซึ่งก็ได้นำเงินดังกล่าวไปใช้รักษาแม่ และแบ่งกับพี่ชายเป็นมรดก

เรื่องที่เกิดขึ้น ในตอนนั้น ทางดดี ถูกแยกออกเป็น 2 สำนวนคดี โดยคดีแรก คือ คดีที่นางมาวดี ถอนเงินในบัญชี อาม่าฮวย 24 ล้านบาท เข้าบัญชีตัวเอง ไปซื้อกองทุนและประกันในนามของตัวเอง และลงทุนรีสอร์ต ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา

ส่วนคดีเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารธนาคาร ทยอยเบิกถอนเงินหลายครั้ง รวมความเสียหาย 238 ล้านบาท คดีนี้ศาลอาญาพระโขนง พิพากษาว่ามีความผิดจริงเช่นกัน สั่งจำคุก นางมาวดี ฐานลักทรัพย์ และปลอมเอกสาร รวม 88 กระทง เป็นเวลา 176 ปี จำคุกจริง 20 ปี ตามกฎหมาย และให้ชดใช้เงินคืนกว่า 123 ล้านบาท

ส่วนพนักงานธนาคาร อีก 4 คน ศาลพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 4 เพียงคนเดียว คือ นางทิพย์ภาพร แดงสวัสดิ์ ที่มีส่วนในการประทับลายนิ้วมือของอาม่าฮวย ให้จำคุก 2 ปี, ส่วนจำเลยที่เหลือ ยังไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน ให้ยกฟ้องจากจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook