สามีเผย อาจารย์ มช. ป่วยมะเร็งปอดปีเดียวเสียชีวิต พบยีนส์กลายพันธุ์ ผลจาก PM 2.5

สามีเผย อาจารย์ มช. ป่วยมะเร็งปอดปีเดียวเสียชีวิต พบยีนส์กลายพันธุ์ ผลจาก PM 2.5

สามีเผย อาจารย์ มช. ป่วยมะเร็งปอดปีเดียวเสียชีวิต พบยีนส์กลายพันธุ์ ผลจาก PM 2.5
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สามีเผย ศ.ดร.ระวิวรรณ มีอาการไอนึกว่าเป็นลองโควิด ตรวจเจอมะเร็งปอดระยะ 4 พบยีนส์กลายพันธุ์ ผลจากฝุ่น PM 2.5

นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อายุรแพทย์โรคหัวใจและที่ปรึกษาศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีข่าวร้ายเกี่ยวกับการเสียชีวิตอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งพบว่าเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด 4 ราย จากการตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ป่วยมะเร็งปอดโดยที่ไม่มีประวัติการสูบบุหรี่ ซึ่งปกติจะมีสัดส่วนที่น้อย แต่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดเชียงใหม่ กลับพบผู้ป่วยโรคมะเร็งมีสัดส่วนที่สูงมากกว่าที่อื่น

และจากการศึกษาวิจัยจากต่างประเทศพบว่าการมาอยู่ในพื้นที่ ที่มี PM 2.5 ในระดับที่ไม่ปลอดภัยเป็นระยะเวลานาน มีโอกาสกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของยีนส์ทำให้มีโอกาสที่เกิดมะเร็งปอดสูงขึ้นอย่างมาก โดยแค่ระยะเวลา 2-3 ปี ก็มีความเสี่ยงแล้ว ซึ่งไม่ใช่เป็นการได้รับผลกระทบระยะสั้นหรือแค่แสบตา ตาแดง แสบจมูก หากเป็นการสะสมของพิษและส่งผลกระทบกับสุขภาพอย่างรุนแรงทั้งโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบ เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดช่วงที่หมอกควันปกคลุมแต่เป็นการสะสมของพิษระยะยาว

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดสวนดอกพระอารามหลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ศาสตราจารย์ ดร.ระวิวรรณ โอฬารรัตน์มณี คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งนายจิตรกร โอฬารรัตน์มณี สามีของ ดร.ระวิวรรณ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภรรยาได้เริ่มป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ตอนแรกคิดว่าภรรยาป่วยเป็นลองโควิด แต่ช่วงหนึ่ง อ.ระวิวรรณ ได้มีอาการไอ และมีเลือดติดออกมา จึงตัดสินใจเข้าตรวจสุขภาพที่คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4

หลังจากนั้นทางแพทย์เจ้าของไข้จึงได้วางแนวทางในการรักษาเริ่มจากการหาสาเหตุของการเกิดมะเร็งว่ามะเร็งปอดตัวนี้มันเกิดจากอะไร โดยการนำตัวอย่างเนื้อเยื้อไปตรวจพบว่าเป็นผลจาก PM 2.5 ทำให้เกิดยีนส์กลายพันธุ์เกิดขึ้น ซึ่งยีนส์กลายพันธุ์ตัวนี้มักจะเกิดผู้หญิงเอเชีย

อย่างไรก็ตามอยากจะฝากถึงรัฐบาลว่าจริงๆ เราพบปัญหา PM 2.5 มานานแล้ว เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เกิดผลกระทบกับเราอย่างชัดเจนเราจึงไม่ให้ความสำคัญ แต่เมื่อวันหนึ่งถ้าคนในครอบครัว หรือตัวเราเองป่วยเป็นมะเร็งปอด เราจะรู้ทันทีว่า PM 2.5 มันเป็นผลกระทบที่ร้ายแรงมาก อยากให้กรณีของ อ.ระวิวรรณ เป็นกรณีศึกษาว่าหลังจากนี้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ถ้าใส่ใจในการแก้ไขปัญหามากกว่านี้ อย่างน้อยที่สุดมันอาจจะไม่ทำให้ปัญหาหมอกควันหายไป แต่หวังว่าให้ลดความรุนแรงลงได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี

นายจิตรกร กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากคืนนี้ได้มีการทำบุญกุศลศพ อ.ระวิวรรณ เป็นคืนสุดท้ายพรุ่งนี้ตนเองและครอบครัวจะมอบร่าง อ.ระวิวรรณ ให้กับคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต่อไปตามที่ อ.ระวิวรรณ ตั้งใจไว้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook