ใช้แอร์ผิดวิธีหรือเปล่า? เช็ก 5 ความเข้าใจผิด คิดว่าทำแล้วประหยัด แต่ค่าไฟดันพุ่ง
กำลังใช้เครื่องปรับอากาศผิดวิธีอยู่หรือเปล่า? หลายคนอาจไม่รู้ เพียงเพราะรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ ทำค่าไฟฟ้าพุ่ง
เครื่องปรับอากาศ กลายเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกบ้าน แต่นี่ก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้ค่าใช้จ่ายของหลายครอบครัวพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน เพื่อประหยัดเงินหลาย ๆ คนมักมีนิสัยปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อรู้สึกว่าอุณหภูมิห้องเย็นเพียงพอ และเปิดใหม่อีกครั้งเมื่อรู้สึกร้อน ในใจของทุกคน นี่เป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการลดการใช้ไฟฟ้า และเพิ่มอายุการใช้งานของแอร์ฯ โดยการลดเวลาการทำงาน
แต่ในความเป็นจริงวิธีนี้ทั้งกินไฟและทำให้แอร์พังเร็วขึ้น ในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศ เครื่องจะเริ่มและทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ระดับอุณหภูมิที่ต้องการ เมื่ออุณหภูมิคงที่โดยเครื่องปรับอากาศแบบไม่มี Inverter เครื่องจะปิดเครื่องร้อนโดยอัตโนมัติ และเปิดพัดลมเฉพาะตัวเครื่องภายในเท่านั้น
หากเป็นเครื่องปรับอากาศแบบ Inverter เครื่องจะยังคงทำงาน แต่จะปรับความเย็นโดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาอุณหภูมิห้องให้เท่ากับค่าอุณหภูมิที่ตั้งไว้
หากเปิดปิดเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่อง เครื่องปรับอากาศจะต้องทำงานหนักกว่าเมื่อทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสตาร์ทคอมเพรสเซอร์และมอเตอร์พัดลม ทำให้ห้องเย็นลงอย่างรวดเร็วตามอุณหภูมิที่คุณต้องการ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เครื่องปรับอากาศจะใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่าสำหรับการเปิดและปิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดที่คุณสั่ง
นอกจากนี้ นิสัยนี้ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ และลดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศอีกด้วย
ดังนั้นการเปิดปิดเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่เพิ่มการใช้พลังงานและทำให้เครื่องเสียหายอย่างรวดเร็ว แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้ด้วย ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญหลายท่านควรรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับคงที่ และส่วนต่างกับอุณหภูมิภายนอกประมาณ 5 - 7 องศาเซลเซียส หรือคงไว้ระหว่าง 26 - 28 องศาเซลเซียส เพื่อสุขภาพที่ดี
ครอบครัวควรใช้เครื่องปรับอากาศ ระบบ Inverter เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน หากความต้องการใช้งานในแต่ละวันสูง (ประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวัน)
5 วิธีใช้เครื่องปรับอากาศแบบผิด ๆ ทำค่าไฟพุ่ง
ไม่มีการบำรุงรักษาหรือทำความสะอาด
หากสิ่งสกปรกเข้าไปความสามารถในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศจะลดลงและใช้พลังงานมากขึ้น ฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เข้าไปภายในตัวเครื่อง จะทำให้เครื่องปรับอากาศไม่สามารถเป่าลมเย็นเข้ามาในห้องได้ ในห้องที่ร้อน ฝุ่นจะทำให้พัดลมอุดตันและไม่สามารถระบายอากาศได้ ทำให้เกิดความเสียหายและไฟไหม้ได้
ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องปรับอากาศมีอุณหภูมิเพียงพอ ผู้ใช้จึงต้องทำความสะอาดทั้งเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ
เพิ่มหรือลดอุณหภูมิอย่างต่อเนื่อง
หลาย ๆ คนมีนิสัยชอบเพิ่มหรือลดอุณหภูมิอยู่เรื่อย ๆ เพราะคิดว่าเป็นการประหยัดไฟฟ้า ที่จริงแล้วการปรับมากเกินไปจะทำให้การทำงานปกติของเครื่องแย่ลงเท่านั้น
เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีเซ็นเซอร์เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิให้คงที่ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องหยิบรีโมทมาปรับอุณหภูมิเอง เพราะจะทำให้เปลืองไฟและลดความทนทานของเครื่องปรับอากาศ
เปิดอุณหภูมิต่ำสุดทันทีที่เข้าห้อง
เพราะต้องการเย็นเร็วทันทีที่เข้าห้องหลายคนมักมีนิสัยลดอุณหภูมิแอร์ให้เหลือต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส ทำให้เครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพ เปลืองไฟ และพังอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็วยังทำให้ผู้ใช้ประสบภาวะช็อกจากความร้อนซึ่งส่งผลต่อสุขภาพอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เปิดเครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิประมาณ 26 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่านั้น
คิดว่าเปิดแอร์พร้อมพัดลมจะเปลืองไฟ
หลาย ๆ คนไม่ค่อยได้ใช้เครื่องปรับอากาศและพัดลมพร้อม ๆ กัน เพราะคิดว่ามันเปลืองไฟ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเปิดเครื่องปรับอากาศและพัดลมพร้อม ๆ กันไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดไฟฟ้า แต่ยังลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศอีกด้วย เครื่องปรับอากาศช่วยให้เย็นสบาย และพัดลมช่วยให้อากาศเย็นทั่วถึงทั่วห้อง
การซื้อแอร์เก่าช่วยประหยัดเงิน
หลาย ๆ คนเลือกซื้อแอร์เก่าเพื่อประหยัดเงิน โดยไม่รู้ว่าประสิทธิภาพการทำความเย็นไม่สูงนัก เนื่องจากตัวเครื่องทำงานไม่เต็มที่ ซึ่งจะกินไฟปริมาณมาก
ไม่ต้องพูดถึงว่าเครื่องอาจเสียหาย ทำงานผิดปกติ และต้องการการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ราคาค่าซ่อมก็ไม่น้อยเช่นกัน