ศอฉ.เสนอนายกฯประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่ม 15 จังหวัด

ศอฉ.เสนอนายกฯประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่ม 15 จังหวัด

ศอฉ.เสนอนายกฯประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่ม 15 จังหวัด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศอฉ.ประกาศปิดเส้นทางเพิ่มเติมบน ถ.พระราม 1 และ ถ.ราชปรารภ พร้อมเสนอให้นายกรัฐมนตรีประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพิ่มอีก 15 จังหวัดทั้งภาคกลาง อีสาน และเหนือ ขณะที่กองทัพอากาศประกาศพื้นที่เหนือย่านราชประสงค์เป็นเขตห้ามบิน

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลประชุม ศอฉ.ในช่วงค่ำวันนี้ (13 พ.ค.) ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีมติให้ปิดเส้นทางการจราจรเพิ่มเติมบริเวณ ถ.พระรามที่ 1 ตั้งแต่แยกปทุมวันถึงแยกเจริญผล และ ถ.ราชปรารภ ตั้งแต่แยกประตูน้ำถึงแยกมักกะสัน

โฆษก ศอฉ. กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเตรียมเสนอให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพื้นที่ 15 จังหวัด คือ ชลบุรี นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น อุดรธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ลำปาง นครสวรรค์ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีลงนามประกาศใช้ และเสนอคณะรัฐมนตรีได้ ภายใน 3 วัน

"ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีอำนาจในการป้องกันดูแล ไม่ให้กลุ่มมวลชนเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ส่วนกลางยากลำบากมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ศอฉ.จะออกคำสั่งเพิ่มเติมให้แม่ทัพภาคที่ 2 และแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในระดับภูมิภาค และแต่งตั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยระดับจังหวัด โดยให้ขึ้นตรงกับแม่ทัพภาค" โฆษก ศอฉ. กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า กองทัพอากาศยังได้ประกาศพื้นที่เขตห้ามบินบริเวณแยกราชประสงค์ ความสูงตั้งแต่ภาคพื้นดินขึ้นไป 6,000 ฟุต 2 นอติคอลไมล์ หรือ 3.6 กิโลเมตร โดยทิศเหนือจด ททบ. 5 ทิศใต้จดสีลม ทิศตะวันออกแยกอโศก ทิศตะวันตกตลอดลำน้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ ห้ามทำการบินของเครื่องบินทุกชนิด รวมทั้ง เครื่องบินบังคับ เครื่องร่อน

โฆษก ศอส. ยังชี้แจงถึงกรณีที่มีข่าวทหารทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมเสื้อแดงในคืนวันที่ 11 พฤษภาคมว่า ข้อเท็จจริง คือสมาชิกคนเสื้อแดงดังกล่าวได้ดื่มเหล้าและเกิดการทะเลาะกับประชาชนที่อาศัยย่านสีลม ซึ่งนายทหารสังกัดกองพันที่ 3 กองพลทหารม้าที่ 2 ได้เข้าไปห้ามปราม และจับสมาชิกคนเสื้อแดงให้ตำรวจดำเนินคดี การที่ต้องชี้แจงเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า การที่ ศอฉ.ได้ส่งกำลังเข้าปิดล้อมกดดันในพื้นที่ตั้งแต่วันนี้ คงมีความพยายามบิดเบือนข้อมูลที่เกินกว่าเหตุเกิดขึ้นเป็นระยะ

พ.อ.สรรเสริญ ยังกล่าวย้ำถึงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจที่ใช้รถเกราะเป็นเครื่องกำบังอันตรายว่า ไม่ได้ต้องการมุ่งร้ายเอาชีวิต แต่การดำเนินการจะทำตามหลักสากล จากเบาไปหาหนัก และมีระยะห่างกับกลุ่มผู้ชุมนุม 30-40 หลา จากนั้น จะแจ้งเตือนให้ผู้ชุมนุมหยุดการเคลื่อนที่ หากยังไม่หยุดคงต้องใช้กระสุนจริงและปืนลูกซอง แต่ไม่ได้มุ่งชีวิต เพียงต้องการให้หยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเคลื่อนที่มาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกัน จะมีพลแม่นปืนคอยระวังป้องกันคุ้มครองเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ โดยใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กับปืนทราโว่เท่านั้น โดยจะใช้ในกรณียิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขวัญ หรือกรณีที่ผู้ชุมนุมมีอาวุธร้ายแรงที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ และกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอันตรายที่เข้ามาเพื่อมุ่งหมายเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้อาวุธปืนเอ็ฒ 79 จรวดอาร์พีจี และระเบิดขว้าง

ส่วนมาตรการการตัดน้ำ ตัดไฟ และโทรศัพท์ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมดำเนินการแล้ว โดยจะดำเนินการเป็นกลุ่ม ๆ ไป ยืนยันว่าโรงพยาบาลในพื้นที่และวังสระปทุม จะไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ศอส.จะออกประกาศรายละเอียดของพื้นที่ที่จะดำเนินการภายในคืนนี้ ขณะเดียวกัน ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมาย 1555 โดยจะต่อสายถึงหน่วยงานเกี่ยวเพื่อตอบคำถามให้ทราบโดยตรง

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เตรียมรถบัสไว้บริการประชาชนที่บริเวณสนามกีฬาแห่งชาติและราชเทวี เนื่องจากรถบริการสาธารณะไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook