ศอฉ.ขีดเส้นม็อบออกจากราชประสงค์ก่อนบ่าย 3 พรุ่งนี้
โฆษก ศอฉ. เผย ศอฉ.มอบหมายตำรวจให้ประสาน พม.-กาชาด-เอ็นจีโอ-สื่อ ไปชวนผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์เดินทางกลับบ้านภายในบ่าย 3 โมงพรุ่งนี้ จะพิจารณาผ่อนผันโทษให้ เผย ศอฉ.เตรียมถกตำรวจอีกรอบเกี่ยวกับพื้นที่ใน กทม.ที่จะประกาศเคอร์ฟิว เพื่อแยกแยะประชาชน ขณะที่ ผบ.ทบ.สั่ง 3 เหล่าทัพบริจาคเลือดช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมแจงแนวทางที่จะใช้กระสุนจริง
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงภายหลังการประชุม ศอฉ.ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน ว่า ศอฉ.มอบหมายให้ตำรวจไปประสานงานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ (พม.) เจ้าหน้าที่กาชาด องค์กรเอกชน หรือเอ็นจีโอ พร้อมสื่อมวลชน เข้าไปในพื้นที่ชุมนุมแยกราชประสงค์ เพื่อเชิญชวนผู้ชุมนุม โดยเฉพาะสตรี เด็ก คนชรา ออกนอกพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้ ซึ่งประชาชนสามารถออกนอกพื้นที่ชุมนุมในทุกเส้นทาง และอำนวยความสะดวกให้กลับบ้านทุกคน แต่จะต้องแสดงเจตนารมณ์ให้ชัดเจนว่า อยากจะออกนอกพื้นที่ด้วยการแสดงตนกับเจ้าหน้าที่ และไม่มีอาวุธออกมา
ส่วนโทษที่กระทำผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า หากพร้อมที่จะออกมาตามคำเชิญชวนของเจ้าหน้าที่ก็จะพิจารณาผ่อนผันโทษให้ โดยจะมีเวลาตัดสินใจตั้งแต่วันนี้ ถึงเวลา 15.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.) และเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ในเวลา 14.00 น. ตำรวจจะประชุมวางแผนและหารือกับ ศอฉ.อีกครั้งว่า จะประกาศเคอร์ฟิวในถนนเส้นทางใดหรือพื้นที่ใดบ้าง
"ฝ่ายความมั่นคงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ยุติการชุมนุม การประกาศเคอร์ฟิวในเขตต่าง ๆ และถนนเส้นสำคัญใน กทม. เพื่อให้ตำรวจ ทหาร ปฏิบัติภารกิจได้ง่ายขึ้น ไม่เป็นภาระในการแยกผู้บริสุทธิ์ออกจากผู้ก่อการร้าย ซึ่งต่างจากการปิดถนน โดยเคอร์ฟิวที่ประกาศในถนนเส้นหนึ่งเส้นใดจะห้ามประชาชนเดินเข้าไปในถนนเส้น นั้น ซึ่งเมื่อประกาศแล้วประชาชนต้องไม่เข้าไป หากฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่จะเข้าไปจับกุมดำเนินคดี ทั้งนี้ ถ้าเราไม่ประกาศเคอร์ฟิวเราจะแยกแยะไม่ออกว่าใครที่เป็นไทยมุง ใครเป็นผู้ก่อการร้าย ใครเป็นพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า ขณะนี้ ศอฉ.ได้ข้อมูลข่าวสารมาว่า กลุ่มก่อการร้ายพยายามสร้างสถานการณ์ใช้กระสุนยิงใส่เจ้าหน้าที่ทำให้เกิด ความเข้าใจผิดว่า ยิงกันเอง และเป็นไปได้ว่า มีการใส่ชุดทหาร ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า จะมีการยิงใส่ประชาชน และสื่อมวลชน ทั้งนี้ฝากเตือนสื่อว่า การเข้าไปในพื้นที่จะต้องประสานกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้อำนวยความสะดวก
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุม ศอฉ.แล้ว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ประชุมหน่วยปฏิบัติ โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่ด่านต่าง ๆ อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตผู้บาด เจ็บในเหตุต่าง ๆ ทุกพื้นที่ เพื่อให้สามารถเข้าไปปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บได้ และกำชับให้ 3 เหล่าทัพ คือกองทัพบก เรือ อากาศ ที่เป็นฝ่ายสนับสนุนให้ร่วมกันบริจาคโลหิต เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับ บาดเจ็บจากเหตุการณ์กระทบกระทั่งครั้งนี้
ส่วนการกำหนดพื้นที่ใช้กระสุนจริงนั้น โฆษก ศอฉ. ชี้แจงว่า แม้มีการปิดประกาศก็ไม่ได้หมายความว่า จะใช้กระสุนจริงยิงในทุกกรณี แต่จะเป็นการกำหนดแนวให้เห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมหรือผู้ก่อการร้ายจะเคลื่อนที่เลยแนวนี้ไม่ได้ แต่จะดูเป็นกรณี ๆ ไป และยืนยันว่า เราจะไม่ใช้อาวุธสงครามกับประชาชนที่ไม่มีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ โดยปืนเอ็ม 16 ปืนทาโวร์ ทั้งหลายจะดำเนินการเพื่อยิงข่มขวัญ ยิงผู้ถืออาวุธร้ายแรง และป้องกันชีวิตของเจ้าหน้าที่กรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นอกเหนือจากนั้นถ้ามีกลุ่มที่พยายามเคลื่อนที่กดดันทหาร ตำรวจ ก็จะใช้กระสุนปืนลูกซองยิงต่ำกว่าระดับหัวเข่า
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ช่วงนี้มีข่าวลือเกิดขึ้นมาก จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการบริโภคข้อมูลข่าวสาร และ ศอฉ.จะชี้แจงข้อมูลเป็นระยะ อย่างกรณีมีข่าวชายชุดดำ มีคนเสื้อแดงเสียชีวิตเต็มไปหมดใต้ทางด่วน จึงเป็นข่าวปล่อย ดังนั้นขอให้บริโภคข้อมูลข่าวสารให้ละเอียด อย่าดูเฉพาะภาพ แต่ขอให้ดูในรายละเอียดด้วย