ศอฉ.ขยายเคอร์ฟิว เพิ่ม 3 วัน 21.00-05.00น.
ศอฉ. ลั่น เพิ่มมาตรการกดดันจับกุม กลุ่มก่อความไมสงบ เชื่อ เหตุจลาจลทั่วกรุง มีการวางแผนมาแล้วพร้อมขยายเวลาเคอร์ฟิวส์ อีก 3 วัน ใน 24 จังหวัด สั่ง ปูพรม ตรวจราชประสงค์ คาด ก่อการร้ายยังแฝงตัว
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้แถลงถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า กลุ่มก่อความไม่สงบ มีการทำร้ายประชาชนหลายจุด อาทิตลอดแนวถนนพระราม 4 เช่น คลองเตย ปากซอยไผ่สิงโต และบริเวณรอบๆ ศูนย์การค้า ราชประสงค์ ทำให้มีการบาดเจ็บเมื่อคืนนี้ รวม 88 ราย เสียชีวิต 7 ราย สำหรับ ผู้เสียชีวิต ตั้งแต่เกิดความไม่สงบขึ้น ขณะนี้มีจำนวน 44 ราย ดังนั้น ศอฉ. จะเพิ่มมาตรการให้มากขึ้น เพื่อลดการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และจะนำข้อเท็จจริงทั้งหมดในห้วงของเมื่อคืน ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป
ทั้งนี้ เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา จะไม่รุนแรง หากไม่มีการวางแผนเตรียมการไว้ก่อนรัฐบาลเข้าใจดี พี่น้องประชาชนที่มาชุมนุม ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ แต่มีอีกกลุ่มหนึ่งพยายามลดความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ดังนั้น วันนี้ เจ้าหน้าที่ จะเข้าไประงับยับยั้ง และควบคุม กลุ่มก่อความไม่สงบให้ได้ และจะเพิ่มมาตรการในการดูแลสถานที่ราชการ เพิ่มมากขึ้น
สำหรับผู้เสียชีวิตที่ วัดปทุมวนารามฯ มีจำนวน 6 คน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีการวางแผน มีการกระทำเพื่อต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อย่างชัดเจน สอดคล้องกับ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. ที่ระบุว่า การปะทะกัน น่าจะเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. โดย กลุ่มก่อการร้าย ต่อต้านเจ้าหน้าที่ ในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน และขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ
อีกทั้ง ได้มอบหมายให้ พ.ญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. แถลงข่าวถึง เหตการณ์ความไม่สงบ เมื่อวานที่ผ่านมา โดยการแถลงครั้งนี้ ได้มีการเปิดคลิปภาพการปราศรัยของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ซึ่งมีการปราศรัย ปลุกระดมให้คนเผาสถานที่ราชการ หากมีการถูกยึดอำนาจ โดย พ.อ.สรรเสริญ ระบุว่า การปลุกระดมเช่นนี้ ชี้ชัดว่า ผู้พูด มีส่วนรู้เห็นกับการวางเพลิงที่เกิดขึ้น อีกทั้งนายณัฐวุฒิ ได้กล่าวก่อนเข้ามอบตัวว่า ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวโดยอิสระ ซึ่งเป็นสิ่งชี้วัดได้เป็นอย่างดีว่า แกนนำ ต้องการอะไร สำหรับ ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ วันนี้จะมีการเข้าตรวจสอบในพื้นที่ราชประสงค์อย่างละเอียด อีกครั้ง เพราะเชื่อว่า ยังมีการหลบซ่อนของชายชุดดำ ซึ่งคอยซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุม ที่จะมีการเดินทางกลับภูมิลำเนา จะมีการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด หากพบว่า มีความผิดก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
พร้อมกันนี้ พ.อ.สรรเสริญ ยังได้บอกว่า ศอฉ. ได้มีการขยายเวลาการประกาศ เคอร์ฟิว นั้น ต่อไปอีก 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 20-22 พ.ค. ในพื้นที่ๆ มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 24 จังหวัด ตั้งแต่เวลา 21.00 - 05.00 น.
โฆษก ศอฉ. ยังกล่าวถึง ผลการเข้าตรวจสอบของแพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ภายในวัดปทุมวนารามฯ พบว่ามีกลุ่มของผู้เสียชีวิต จำนวน 6 ศพ ซึ่งเบื้องต้น จากการสอบถามประชาชนที่อยู่ด้านใน ให้การว่า มีคนลอบยิงอาวุธสงครามเข้าใส่บุคคลทั้ง 6 ในขณะที่กำลังจะเดินทางออกจากวัดปทุมฯ เพื่อไปขึ้นรถที่ สนามกีฬาศุภชลาสัย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในเวลาใด ขณะที่ ทางรัฐบาลยืนยันว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวได้ เนื่องจาก มีการยิงตอบโต้ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาล และ ศอฉ. ก็พร้อมที่จะเข้าสู่ขบวนการพิสูจน์ ทุกรูปแบบทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ และกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ โฆษก ศอฉ. ยังกล่าว ด้วยว่า การวางเพลิงในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้ง 39 จุด มีสาเหตุมาจาก 2 กรณี คือ 1.เป็นความโกรธแค้นของกลุ่มผู้ชุมนุม ภายหลังมีสาเหตุมาจาก 2 กรณีคือ 1.เกิดจากความโกรธแค้นของกลุ่มผู้ชุมนุม และ 2.เป็นการวางแผนอย่างเป็นระบบ โดยมีการนำคลิปวิดีโอ การปราศรัยบนเวทีของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ มาเปิดเพื่อยืนยันว่า มีความสอดคล้องกัน