สื่อนอก ชี้ต้องเด็ดขาดกับ ทักษิณ เพื่อสันติภาพ
หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศของสหภาพยุโรป หรือ EU เรียกเจ้าหน้าที่ไทย ให้ฟื้นฟูประเทศด้วยการเคารพสิทธิมนุษยชน หลังการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล โดยกล่าวว่า ความความรุนแรงมีแต่ "ทำร้ายประเทศไทย"ขณะที่ สื่อนอก ชี้ ต้องเด็ดขาดกับ "ทักษิณ" เพื่อบรรลุสันติภาพ
นางแคเธอรีน แอชตัน ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรป หรือ EU ฝ่ายกิจการต่างประเทศ ระบุในแถลงกาณณ์วานนี้ (21) โดยกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งในกรุงเทพมหานครและที่อื่นๆ ในประเทศไทย
พร้อมกล่าวว่า ความรนุแรงไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไร มีแต่จะก่อให้เกิดอันตราย โดยเฉพาะกับประเทศไทยและประชาชน และยังมีแต่สร้างความแตกแยกร้าวหยั่งลึก จนยากที่จะเยียวยา
นอกจากนี้ เธอยังได้ส่งการปลอบขวัญและการแสดงความเห็นใจ กับครอบครัวผู้สูญเสีย พร้อมเน้นย้ำว่า การสมานฉันท์แห่งชาติ ถือว่า จำเป็นอย่างที่สุดในเวลานี้ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย ด้วยการเคารพสิทธิ-
มนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ส่วนผู้ที่มีความเห็นต่อต้านรัฐบาล ควรละเว้นการกระทำการใดๆ ที่เป็นการใช้ความรุนแรง และขอให้ร่วมมือกัน เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
"ในฐานะที่ สภาพยุโรป เป็นมิตรอันดีกับประเทศไทย เราจึงไม่อาจนิ่งเฉย และขอเสนอความช่วยเหลือ ในกระบวนการสร้างสมานฉันท์แห่งชาติ ในประเทศไทยและฉันหวังว่า ชาติไทย จะมองไปข้างหน้าและหาทางออกอย่างจริงจัง"
แถลงการณ์ระบุ
ขณะที่ สื่อสหรัฐ เสนอบทวิเคาระห์โดยระบุว่า หากผู้นำประเทศหวังจะนำพาประเทศกลับมาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอีกครั้ง จะต้องมีการวางแผนและควบคุมอย่างเด็ดขาด กับพวกที่ก่อเหตุการณ์นองเลือดบนท้องถนน , พวกประชานิยมหัวรุนแรง และ ... "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"
4 ปี หลังถูกโค่นอำนาจทางการเมือง และถูกข้อกล่าวหา ทุจริต พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เล่นเกมการเมืองที่ซับซ้อนเกินกว่าจะคาดเดา เพื่อกรุยทางกลับสู่อำนาจในประเทศไทยอีกรั้ง โดยในแถลงการณ์ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธการมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ ชักใยเบื้องหลัง เหตุการณ์ที่นับว่า เป็นฝันร้ายจนยากจะลืมเลือนของคนไทยทั้งประเทศ อันส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 ราย ในการปะทะเดือดระหว่างผู้ประท้วงหัวรุนแรงกับเจ้าหน้าที่รัฐในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา พร้อมยังเรียกร้องให้ สหประชาชาติ เข้าแทรกแซงเหตุประท้วงรุนแรงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย
ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศ เสนอรายงานพิเศษในหัวข้อ : "ทักษิณ ชินวัตร ; คนมีวิสัยทัศน์ หรือ ก่อการร้าย"
ผู้ประท้วงชาวชนบทหัวใจสีแดง เคลื่อนไหวเพื่อแม่พิมพ์ของตน นามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำคนแรกของไทย ที่ต้องการให้ชาวกรุงฯ นับล้านคนอาศัยอยู่เหนือเปลวไฟ อันร้อนระอุ
หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจลง เมื่อปี 2549 สังคมไทย ก็เสี่ยงกับอันตรายที่อาจจะปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ จากผู้คนสองฝั่งสองฝ่าย จนผุดคำถามขึ้นมาว่า "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ชื่อนี้จะกลับมามีอำนาจอีกครั้งหรือไม่ หลังเกิดการประท้วงที่กินเวลานานนับ 10 สัปดาห์ ผ่านค่ำคืนอันเลวร้าย การจลาจลทั่วกรุง และลอบวางเพลิงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยใหม่ ให้มอดไหม้ไปโดยไม่อาจควบคุม
ด้าน นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้เชี่ยวชาญการเมืองไทยจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า นี่คือ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) บุคคลที่ไม่ยอมเลิกลา ---- เกมส์การเมืองยังไม่จบลง --- มาตรการที่เข้มงวดของรัฐบาล ได้ก่อให้เกิดการแบ่งชนชั้น "คนจน-คนรวย" ออกอย่างชัดเจน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สนับสนุนมัน จนลึกเกินกว่าจะเยียวยา ผู้ประท้วงเสื้อแดงหลายคนที่ได้กลับบ้านไป จะยังคงระลึกถึงเขา .... ผู้ช่วยชีวิตของคนยากคนจน
ตามรายงานยังระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลบางคน กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักคิดที่หลักแหลม และเชื่อว่า มีการลักลอบขนอาวุธสงครามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง กัมพูชา มิตรอันใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างไรก็ดี เจ้าตัว ก็ยังปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่รู้ไม่เห็น หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น