สศช.เผยGDP/Q1โต12%สูงรอบ15ปี
สศช. เผยการลงทุนเอกชนฟื้นดัน จีดีพี ไตรมาส 1 ปี 53 โต ร้อยละ 12 สูงสุดรอบ 15 ปี ขยายตัวเป็นอันดับ 2รองจากสิงคโปร์ พร้อมคงเป้าทั้งปี โตร้อยละ 3.5-4.5
นายอำพล กิตติอำพล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เปิดเผย ถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ไตรมาส 1 ปี 2553 โดยขยายตัวได้ถึงร้อยละ 12 สูงสุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งเป็นการฟื้นตัวที่ชัดเจน จากการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวถึงร้อยละ 15.8 ภาคการส่งออกโตร้อยละ 16.2 การใช้จ่ายภาคครัวเรือนร้อยละ 4 ภาคการท่องเที่ยว โตร้อยละ 28.4 นักท่องเที่ยวสูงถึง 4.7 ล้านคน ส่งผลให้ไทยมี จีดีพี อยู่ในอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศแถบเอเชีย ซึ่งขยายตัวรองจากประเทศสิงคโปร์เท่านั้น
ส่วนการประมาณการเศรษฐกิจในปี 2553 ซึ่งคงเท่าเดิม มีช่วงร้อยละ 3.5-4.5 ซึ่งแม้ว่า สถานการณ์ในไตรมาส 1 จะขยายตัวได้สูง แต่สถานการณ์ทางการเมือง จากเหตุการณ์การชุมนุมและเหตุจลาจล ทำให้ต้องคงเป้าไว้ที่เดิม แต่หากไม่มีเหตุการณ์ทางการเมืองดังกล่าว เกิดขึ้นเศรษฐกิจไทย ยังสามารถโตได้ถึงร้อยละ 6-7
นอกจากนี้ นายอำพล ได้คาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ไตรมาส 2 ปี 2553 คงไม่ติดลบ แต่จะไม่โตมาก ตามแนวโน้มของไตรมาส 1 แต่ จีดีพี ไตรมาส 2 ยังโตได้ จากการส่งออกที่ยังช่วยพยุงอยู่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาล จะต้องเร่งมาตรการสำคัญ เพื่อช่วยพยุง จีดีพี ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ที่อาจจะติดลบหนัก คือ การเร่งฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศ ในสายตานักท่องเที่ยว และนักลงทุน จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง การเดินหน้าแผนปรองดอง เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ทางการเมือง ชุมนุมทางการเมืองกลับมา จะเร่งรัดแผนการลงทุน ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ปี 2555 การใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐให้เป็นไปตามเป้า จะแก้ปัญหาภัยแล้งและเดินหน้าโครงการประกันรายได้ให้ทั่วถึงกับเกษตรกรในทุก ภาคส่วน
ทั้งนี้ สศช. ได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 3-4 ราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 75-85 สหรัฐต่อบาร์เรล