ชำแหละให้ชัดๆ ผลไม้หวานสดชื่น "แตงโม" มีกี่แคลอรี่ กินแล้วไม่อ้วนจริงหรือ?
หลายคนยังกังวล "แตงโม" รสหวานสดชื่น ชำแหละให้ชัดๆ กินแล้วไม่อ้วนจริงหรือ?
แตงโม ถือเป็นหนึ่งในผลไม้ยอดนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากมีรสหวานและให้ความสดชื่น อย่างไรก็ดี ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า การกินแตงโมทำให้น้ำหนักพุ่งขึ้นหรือไม่?
แตงโม ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Citrullus lanatus เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดจากแอฟริกาตอนใต้ มีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีรูปร่างกลม มีผิวด้านนอกสีเขียวเข้ม และเนื้อสีแดงภายในที่กินได้ แม้ว่าจะดูค่อนข้างใหญ่แต่ส่วนผสมหลักของแตงโมก็คือน้ำ โดยคิดเป็น 92% และมีแคลอรี่ต่ำมาก
แล้วสรุปแตงโมมีกี่แคลอรี่?
การวิจัยของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ระบุว่าแตงโมลูกที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 นิ้ว x 7.5 นิ้ว จะมีแคลอรี่ประมาณ 1,360 แคลอรี่
แคลอรี่ของแตงโมมาจากส่วนผสมต่างๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต ซึ่งส่วนใหญ่สร้างขึ้นจากน้ำตาลธรรมชาติ ซูโครส ฟรุกโตส และกลูโคส ด้วยน้ำตาลธรรมชาติเหล่านี้แตงโมจึงมีรสหวาน ปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ ดังนั้นการกินแตงโมจึงไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น
โดยปกติเวลารับประทานแตงโมจะต้องหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ซึ่งแตงโมแต่ละชิ้นให้พลังงานต่อร่างกายเพียง 86 แคลอรี่เท่านั้น
นอกจากแตงโมจะมีแคลอรี่ต่ำแล้ว ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันยังให้สารอาหารที่จำเป็นมากมายต่อร่างกายอีกด้วย จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) แตงโม 1 ชิ้น ซึ่งให้พลังงาน 86 แคลอรี่ สามารถให้วิตามินและแร่ธาตุต่อไปนี้
- วิตามินซี 25% มีความสามารถในการต่อสู้กับเชื้อโรค ปกป้องคุณจากริ้วรอยก่อนวัย และบรรเทาผิวหมองคล้ำ
- วิตามินเอ 30% ดีต่อสุขภาพดวงตา และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ธาตุเหล็ก 4% ช่วยขจัดความเหนื่อยล้า และช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
- แคลเซียม 2% ช่วยสร้างและสนับสนุนกระดูกให้แข็งแรง
- โพแทสเซียม 8% ควบคุมความดันโลหิต และรักษาระดับความชุ่มชื้นให้สมดุล
- ไฟเบอร์ 4% ช่วยให้รู้สึกกังวลน้อยลง
สรุปแล้ว แม้ว่าแตงโมจะมีน้ำตาล แต่ก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ที่สำคัญคือมีแคลอรี่ต่ำ ดังนั้นแตงโมจึงกลายเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพและดีต่อสุขภาพ โดยมักเลือกรับประทานแตงโมเพื่อให้รู้สึกอิ่มและลดความอยากอาหาร
- ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ตัว! เตือนคน 7 กลุ่ม ไม่ควรกิน "แตงโม" อร่อยสดชื่น แต่เสี่ยงอันตราย
- เช็กให้ดีก่อน! แชร์สนั่น "กล้วยตาก" น้ำตาลสูงปรี๊ด 64.1% มากกว่าทุเรียนเท่าตัว จริงหรือ?