ศอฉ.ห้ามสื่อสิ่งพิมพ์เสนอข่าวที่กระทบต่อความมั่นคง

ศอฉ.ห้ามสื่อสิ่งพิมพ์เสนอข่าวที่กระทบต่อความมั่นคง

ศอฉ.ห้ามสื่อสิ่งพิมพ์เสนอข่าวที่กระทบต่อความมั่นคง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศอฉ.ห้าม VOICE OF TAKSIN หนังสือพิมพ์ความจริงวันนี้ หนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์ และหนังสือพิมพ์วิวาทะ เผยแพร่ ชี้เนื้อหากระทบความมั่นคง ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00 น. ได้มีการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศอฉ. พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าร่วมประชุม โดยในที่ประชุมได้มีการรายงานความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งการสื่อสารผ่านทางทวิตเตอร์ การส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และความเคลื่อนไหวของทีมทนายความที่ยื่นอุทธรณ์ในข้อหาก่อการร้าย ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไปปฏิบัติตามภารกิจที่ ศอฉ.มอบหมาย

ภายหลังการประชุม ศอฉ.มีการออกคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่ 71/2553 เรื่อง การห้ามนำเสนอข่าว การจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลาย ซึ่งหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หรือสิ่งอื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนทั่วราชอาณาจักร โดยอาศัยอำนาจของ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกคำสั่งห้ามมิให้หนังสือพิมพ์ หรือสิ่งพิมพ์ ประกอบด้วย VOICE OF TAKSIN (เสียงทักษิณ) หนังสือพิมพ์ความจริงวันนี้ หนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์ (THAI RED NEWS) และหนังสือพิมพ์วิวาทะ เสนอข่าวสารหรือทำให้ปรากฏแพร่หลาย ซึ่งข่าวสารที่มีข้อความและเนื้อหาที่กระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักร อันทำให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และบั่นทอนความเป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นของคนในชาติ รวมถึงห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่าย หรือเผยแพร่ด้วยประการใด ๆ ซึ่งหนังสือพิมพ์ หรือสิ่งพิมพ์ดังกล่าว และผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมรตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานกาณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2553 โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook