รู้ไว้ไม่เสียเซลฟ์! หมอเผยเคล็ดลับ 2 ข้อ ไม่ให้ "เท้าเหม็น" หลังเปียกฝน แห้งสนิทไร้กลิ่น

รู้ไว้ไม่เสียเซลฟ์! หมอเผยเคล็ดลับ 2 ข้อ ไม่ให้ "เท้าเหม็น" หลังเปียกฝน แห้งสนิทไร้กลิ่น

รู้ไว้ไม่เสียเซลฟ์! หมอเผยเคล็ดลับ 2 ข้อ ไม่ให้ "เท้าเหม็น" หลังเปียกฝน แห้งสนิทไร้กลิ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แบบนี้นี่เอง! หมอเผยเคล็ดลับ 2 ข้อง่ายๆ ป้องกัน "เท้าเหม็น" หลังเปียกน้ำฝน แห้งสนิทแบบไร้กลิ่น

เมื่อฝนตกอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะ ไม่สายตัว เสื้อผ้าเปียกชื้น โดยเฉพาะในส่วนรองเท้าและถุงเท้าหลังจากโดนฝน ที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้นคือ "กลิ่นเท้า" ที่จะตามมารบกวนและสร้างความอับอาย เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ชื้นและอบอุ่นเหมาะอย่างยิ่งที่โรคผิวหนังจะเติบโต ยิ่งเมื่อไม่ได้ถอดรองเท้าและถุงเท้าที่ชื้นออกทันที ก็เป็นเรื่องยากที่จะหลีกหนีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

ในประเด็นนี้ "ดร.จ้าว จ้าวหมิง" แพทย์ผิวหนังชาวไต้หวัน เน้นย้ำให้ใส่ใจเคล็ดลับ 2 ข้อ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กลิ่นเท้ามาเยือน

1. เปลี่ยนถุงเท้าสำรองบ่อยๆ ดูแลให้แห้งและระบายอากาศได้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

คุณหมอชี้ให้เห็นว่าหลังจากออกไปเผชิญกับสายฝน ควรถอดรองเท้าและถุงเท้าออกทันที เช็ดเท้าให้แห้ง และสวมรองเท้าแตะเพื่อให้ฝ่าเท้าของแห้งและระบายอากาศได้ นอกจากนี้ แนะนำให้พนักงานออฟฟิศนำถุงเท้าสำรองติดตัวไปด้วย หากฝนตกระหว่างทางไปทำงาน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นถุงเท้าสะอาดได้ทันทีหลังจากเข้าบริษัท เพื่อป้องกันการติดเชื้อรา ส่วนรองเท้าที่ถอดออกนั้นนอกจากจะวางไว้ในที่อากาศถ่ายเทและตากในที่ร่มแล้ว ยังสามารถยัดหนังสือพิมพ์และเศษกระดาษเพื่อช่วยดูดซับน้ำและเร่งการแห้งได้อีกด้วย

2. อย่าลืมสวมรองเท้าสลับกันเพื่อลดอัตราการติดเชื้อรา

คุณหมออธิบายว่า เชื้อราในรองเท้ามักจะหายไปเองตามธรรมชาติ ภายใน 1-2 วัน แต่หากใส่รองเท้าคู่เดิมติดต่อกันหลายวัน โอกาสที่จะติดเชื้อราก็จะสูงขึ้น ดังนั้น จึงควรมีรองเท้าสัก 2-3 คู่ ที่สามารถใส่สลับกันได้ เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดกลิ่นเท้าและปกป้องสุขภาพเท้าด้วย

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ รู้ไว้ไม่เสียเซลฟ์! หมอเผยเคล็ดลับ 2 ข้อ ไม่ให้ "เท้าเหม็น" หลังเปียกฝน แห้งสนิทไร้กลิ่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook