หัวหน้าเวรดับเพลิง ทำงานมา 20 ปี ยิงเด็กใหม่ดับ เผยประโยคสุดท้ายก่อนลั่นไก
หัวหน้าเวรดับเพลิง ทำงานมา 20 ปี ยิงเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงาน ดับคาสถานี เผยประโยคสุดท้ายก่อนลั่นไก
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 4 พ.ค.2567 ร.ต.ท.ปิติพันธ์ วงค์อารีย์ พนักงานสอบสวน สภ เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุยิงกันภายในสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม จึงไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม, พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม นายแพทย์ประณิธิ พิพัฒน์ประทานพร แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า, ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรสงคราม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม ในที่เกิดเหตุเป็นห้องวิทยุสถานีดับเพลิง ตั้งอยู่หน้าเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม
บนโซฟาพบศพ นายนันทพร อายุ 25 ปี พนักงานดับเพลิงสวมเสื้อยืดสีแดง คลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 มม. บริเวณกลางศีรษะ กระสุนฝังใน เลือดไหลนองพื้น นอนเสียชีวิต สภาพในมือขวายังถือโทรศัพท์ เล่นไลน์อยู่ บริเวณประตูบานเลื่อนกระจกพบปลอกกระสุนตกอยู่ 1 ปลอก
ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมา คือ นายเจริญ หรือ ครูเดี่ยว อายุ 48 ปี หัวหน้าเวรประจำวัน ยืนรอมอบตัวพร้อมปืนขนาด 11 มม. 1 กระบอก, แม็กกาซีน 1 แม็ก พร้อมลูกกระสุนขนาด 11 มม. 4 นัด และซองพกปืนแบบผ้าสีดำ 1 ซอง
จ.อ.ชัยวัฒน์ อ้อมนอก หัวหน้าสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากลูกน้องว่า ก่อนเกิดเหตุในห้องวิทยุ มี เจ้าหน้าที่ 3 นาย คือ นายทินกร ซึ่งเป็นพนักงานวิทยุนั่งทำหน้าที่หัวหน้าออกถนน, มีนายนันทพร ผู้ตายนอนเล่นโทรศัพท์ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 1 นายนอนหลับ รวม 3 นาย มีผู้ก่อเหตุเดินเข้ามายิง 1 นัด และบอกว่า มึงไม่ให้เกียรติกู และก็เดินออกมาด้านนอกโทรศัพท์แจ้งผู้บังคับบัญชา (นายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม) ก่อนจะเดินออกมามอบตัว
จ.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ครูเดี่ยว ผู้ก่อเหตุเป็นคนตั้งใจ จริงจังกับการทำงานมาก จนบางครั้งลูกน้องที่ทำไม่ถูกต้อง มีปากเสียงไม่เคารพผู้บังคับบัญชา อาจสร้างความไม่พอใจกับครูเดี่ยว วนผู้เสียชีวิตเข้ามาทำงานเพียง 5 เดือนเศษ ยังไม่ได้รับการฝึกดับเพลิงขั้นต้น ซึ่งกำลังจะส่งไปฝึกเพื่อให้มีระเบียบวินัย
นายทินกร พนักงานวิทยุ กล่าวว่าตนกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่ จู่ๆ ได้เสียงเสียงปังตนนึกว่ายางระเบิด พอหันไปก็เห็นว่าผู้ตายถูกยิงแล้ว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด (เวลาในกล้องช้ากว่าเวลาจริงประมาณ 30 นาที) พบว่าผู้ก่อเหตุเดินออกจากห้องมาหยิบปืนในรถปิกอัพที่จอดอยู่ใต้อาคาร ก่อนจะเดินออกมาเข้าไปในห้องไม่นานก็เดินออกมาโทรศัพท์หานายกเทศมนตรี และเดินกลับไปหน้าห้องที่เกิดเหตุรอมอบตัว
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายเจริญ หรือ ครูเดี่ยว ผู้ก่อเหตุ ทำงานมาเกือบ 20 ปี เป็นคนจริงจังกับการทำงาน ขณะที่นายนันทพร ผู้ตาย เพิ่งเข้ามาทำงานประมาณ 6 เดือน ซึ่งอาจทำให้ไม่เข้าใจการทำงาน จนเหตุเป็นการกระทบกระทั่งจนเกิดเป็นความขัดแย้งกันจนบานปลาย ขณะที่ นายนันทพร ผู้ตาย เคยโพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวรูปถือปืน และผู้ตายเคยเป็นนักมวยเก่า จึงอาจเป็นเหตุจูงใจให้ครูเดี่ยว ที่มีปัญหากันเรื่องงาน คิดว่ามีการถือปืนขู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะส่งศพนายนันทพร ผู้ตาย ไปชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ และสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป