ศอฉ.รอตำรวจประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ เลิก-ต่อ เคอร์ฟิว
ศอฉ.ยังไม่ได้ข้อยุติเรื่องยกเลิกหรือยืดเวลาเคอร์ฟิว ให้ "ตำรวจ" เจ้าหน้าที่หลักดูแลพื้นที่ประเมินสถานการณ์ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน มอบ "สมช.-ฝ่ายยุทธการ" รวบรวมการปฏิบัติตั้งแต่เริ่มชุมนุมถึงปัจจุบัน เตรียมทำเอกสาร CD - DVD ชี้แจงประชาชน พร้อมมอบปลัด ก.กลาโหม จัดทำแผนสร้างรัก-สามัคคี รองรับโรดแม็ปปรองดองชาติ ขณะที่โฆษก ศอฉ. ระบุสหรัฐฯ เข้าใจ สูญเสียในระดับยอมรับได้
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลการประชุม ศอฉ. ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง / ผู้อำนวยการ ศอฉ. เป็นประธานว่า ที่ได้ประชุมพิจารณาเรื่องการประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในยามวิกาล (เคอร์ฟิว) โดยวันนี้ (27 พ.ค.) ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แม้แม่ทัพภาคที่ 2 และ 3 จะแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า จากการตรวจสอบกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว จะพบว่าสถานการณ์ดีขึ้นโดยลำดับ ไม่มีความจำเป็นต้องประกาศใช้แล้วก็ตาม ขณะที่ในส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายหน่วยงานก็เห็นตรงกันว่า สถานการณ์ดีขึ้นแล้วเช่นกัน
"ต่อไปการดูแลพื้นที่ในภาพรวม จะส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารช่วยดูแลด้วย ก็ต้องรอฟังความคิดเห็นจากตำรวจที่ดูแลพื้นที่ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดก่อน เมื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รายงานผู้อำนวยการ ศอฉ. ในวันพรุ่งนี้ (29 พ.ค.) อย่างไรแล้ว ที่ประชุม ศอฉ.จะพิจารณาร่วมกับรัฐบาลอีกครั้ง หากยกเลิกเคอร์ฟิวแล้วเกิดสถานการณ์อะไรขึ้น ก็สามารถประกาศใหม่ได้ ส่วนข้อห่วงใยเรื่องความเคลื่อนไหวใต้ดิน ส่วนข่าวร่วมรายงานข้อมูลตามปกติ และเห็นว่า สถานการณ์ดีขึ้น" โฆษก ศอฉ. กล่าว
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมอบหมายหน้าที่ให้ส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลการดำเนินการของ ศอฉ. ตั้งแต่เริ่มการชุมนุม จนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รวบรวมในภาพรวม ส่วนการปฏิบัติทางยุทธวิธีและการใช้กำลัง ให้ส่วนยุทธการของ ศอฉ. เป็นผู้รวบรวม และนำเสนอที่ประชุมโดยเร็วที่สุด เพื่อจัดทำเป็นเอกสาร CD และ DVD ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
"ส่วนการเสริมสร้างบรรยากาศความรู้รักสามัคคี แม้ว่าจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันทางการเมืองอย่างไร แต่ในฐานะเป็นคนไทยด้วยกัน ที่มีความรู้สึกเอื้ออาทรต่อกัน จะต้องดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมเช่นกัน เพื่อกำหนดแผนการปฏิบัติรองรับแผนปรองดองของรัฐบาล ที่ประชุมจึงมอบหมายให้ปลัดกระทรวงกลาโหม รับไปดำเนินการจัดทำแผนมาเสนอต่อที่ประชุมโดยเร็ว" โฆษก ศอฉ. กล่าว
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ในวันที่ 29- 30 พฤษภาคมนี้ จะไม่มีประชุม ศอฉ. เนื่องจากเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา แต่หากมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น ก็สามารถเรียกประชุมได้
เมื่อถามว่า ที่ประชุมพิจารณาเรื่องระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินบ้างหรือไม่ โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือ แต่หลายฝ่ายชี้แจงตรงกันว่า ขณะนี้สิ่งที่กดดันและทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ คือ การประกาศเคอร์ฟิว ขณะที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่ทำให้ประชาชนทั่วไปได้รับความเดือดร้อน เพราะเป็นการประกาศกฎหมายเพื่อเตรียมระงับยับยั้งเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น
"ต่างประเทศก็คงมีมุมมองในเรื่องนี้หลายมุมมอง แต่ก็ต้องพิจารณาหลายปัจจัย เพราะถ้ายกเลิก พ.ร.ก.ฯ แล้วสถานการณ์ทวีความรุนแรง จะกลายเป็นผลร้าย แต่ถ้ายังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฯ อยู่ แม้จะติดภาพของ พ.ร.ก.ฯ แต่ถ้าสังคมในประเทศโดยรวมไม่มีความกังวล ก็ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้น ขณะนี้ในต่างประเทศเข้าใจสถานการณ์ในเมืองไทยดีขึ้น โดยเฉพาะอเมริกาที่แสดงความชื่นชมรัฐบาลไทยและเจ้าหน้าที่ที่มีความตั้งใจ จริงในการระงับยับยั้งเหตุ โดยไม่ให้เกิดความสูญเสียมากเกินกว่าที่คนทั่วไปจะยอมรับได้" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว