ศาลตัดสิน คดีบุกรุกบ้านอากู๋ แก๊งเพื่อนบ้านอ่วม โทษจำคุก-ปรับ-ชดใช้ค่าเสียหายหลักล้าน

ศาลตัดสิน คดีบุกรุกบ้านอากู๋ แก๊งเพื่อนบ้านอ่วม โทษจำคุก-ปรับ-ชดใช้ค่าเสียหายหลักล้าน

ศาลตัดสิน คดีบุกรุกบ้านอากู๋ แก๊งเพื่อนบ้านอ่วม โทษจำคุก-ปรับ-ชดใช้ค่าเสียหายหลักล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ นัดอ่านคำพิพากษาคดี ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 ยื่นฟ้อง น.ส.ศรีพรรณ และพวก รวม 4 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานบุกรุก, ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์

กรณีจำเลยทั้งหมดบุกรุก บ้านของอากู๋ และอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์เป็นของตนเอง ก่อนจะย้ายออกไปเมื่อปลายปี 2566 และลักลอบกลับเข้ามาอ้างสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์อีกครั้ง จึงได้มีการเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยรามอินทรา 58 กทม. โดยจำเลยได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ด้วยวงเงินคนละ 50,000 บาท

ช่วงเช้าวันนี้อัยการโจทก์และทนายความโจทก์ร่วม จำเลยทั้ง 4 คน พร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อระหว่างปี 2560-2566 จำเลยทั้งสี่ได้บุกรุกเข้าไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ เนื่องจากเห็นว่าไม่มีใครอยู่ เพื่อจะเข้าไปต่อเติมสิ่งปลูกสร้างและอยู่อาศัย แต่โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่ามีการบุกรุกในตอนกลางวัน หรือกลางคืน จึงต้องฟังให้เป็นคุณแก่จำเลยว่าเป็นการบุกรุกในเวลากลางวัน และไม่ได้เป็นการกระทำความผิดโดยบุกรุกอย่างต่อเนื่อง

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 365 ประกอบมาตรา 83 การกระทำความผิดเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานบุกรุก จำคุก 6 เดือน ปรับ 2 พันบาท และความผิดฐานลักทรัพย์จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 2 หมื่นบาท

จำเลยทั้ง 4 ให้การรับสารภาพ ลดกึ่งหนึ่ง ฐานบุกรุกคงจำคุก 3 เดือน ปรับ 1 พันบาท ลดโทษกึ่งหนึ่งฐานลักทรัพย์คงจำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท

รวมโทษจำคุกจำเลยทั้ง 4 คงจำคุก 9 เดือน ปรับ 1.1 หมื่นบาท พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง 4 อายุมากแล้ว และจำเลยยังร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 1 ล้านบาท จนเป็นที่พอใจของผู้เสียหายแล้วจึงเห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ในส่วนข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นคดียอมความกันได้ทางโจทก์ร่วมขอถอนฟ้อง ไม่ติดใจเอาความ

น.ส.อำนวยพร มณีวรรรณ์ ทนายความผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้ศาลมีคำพิพากษาให้ผู้เสียหายชนะคดีในข้อหาฐานบุกรุกและลักทรัพย์ รวมโทษที่ลดแล้วจำคุก 9 เดือน ปรับ 1.1 หมื่นบาท ในส่วนทำให้เสียทรัพย์โจทก์ร่วมถอนฟ้อง ศาลเมตตา เนื่องจากเห็นว่าไม่เคยกระทำผิดและจำเลยสูงอายุจึงให้รอลงอาญา 2 ปี หลังจากนี้คดีก็จะจบลงที่ศาลชั้นต้น เนื่องจากผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ ซึ่งตอนนี้จำเลยก็ชดใช้ค่าเสียหายในส่วนคดีครอบครองปรปักต์ที่ฝ่ายจำเลยยื่นคำร้องก็มีการถอนคำร้องไปก่อนหน้านี้

นายซัน หลานอากู๋ เดินทางมาพร้อม น.ส.สโรชา ภรรยา โดย น.ส.สโรชากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นบทเรียนของคนกระทำแบบนี้ สิ่งที่มันผิดฎหมายเราควรรู้ว่าการไปยุ่งของของคนอื่นก็ควรมีบทลงโทษ ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไปในสังคม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook