ตำรวจจัดกำลัง 100 นายดูแลความปลอดภัยผู้ค้าสวนลุมไนท์บาซาร์

กลุ่มชายฉกรรจ์นับร้อยคนนำรถแบ็กโฮเตรียมเข้ารื้อถอนร้านค้าในสวนลุมไนท์บาซาร์ทำให้เกิดการปะทะกับกลุ่มผู้ค้าที่ไม่พอใจขว้างปาของแข็งเข้าใส่กลุ่มชายฉกรรจ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้ค้าได้รับบาดเจ็บ 2 คน

กลุ่มผู้ค้าสวนลุมไนท์บาซาร์ และชายฉกรรจ์ได้ขว้างปาก้อนหินและขวดแก้วเข้าใส่กัน ทำให้ฝ่ายกลุ่มผู้ค้าได้รับบาดเจ็บ 2 คน โดย 1 คนเป็นชายถูกปาที่ศีรษะ ทำให้ศีรษะแตก หลังจากชายฉกรรจ์เตรียมรถแบ็กโฮมาทำการรื้อถอนร้านค้าในสวนลุมไนท์บาซาร์ ซึ่งมีอยู่กว่า 3,700 ร้านค้า นอกจากนี้กลุ่มชายฉกรรจ์ยังได้นำลวดหนามมาขึงตลอดแนวถนน และปิดประตูเข้า-ออกสวนลุมไนท์บาซาร์ประตูที่ 1 และประตูที่ 5 อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินีกว่า 50 นายได้เข้าไปควบคุมสถานการณ์ และเชิญทั้ง 2 ฝ่ายไปที่ สน.ลุมพินี เพื่อหาข้อยุติ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาเกิดขึ้น หลังเหตุการณ์คลี่คลายตำรวจได้จับกุมชายฉกรรจ์จำนวน 20 คนดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ส่วนชายฉกรรจ์ที่เหลือได้ทยอยหลบออกจากสวนลุมไนท์บาซาร์ไป และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันอีก จึงมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบ 100 นาย เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ค้า

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งบังคับคดีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาให้ผู้ค้าในสวนลุมไนท์บาซาร์ย้ายออกจากพื้นที่ ตามที่บริษัทวังสินทรัพย์ เจ้าของพื้นที่ยื่นฟ้องบริษัท พี.คอน.ดีเวลล็อปเม้นท์ ผู้เช่าพื้นที่ดำเนินกิจการโครงการสวนลุมไนท์บาซาร์ หลังหมดสัญญาเช่าที่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2550