พายุโซนร้อนถล่มอเมริกากลาง คร่าชีวิตไป 74 คน
พายุโซนร้อนอะกาธาทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วอเมริกากลางเมื่อวานนี้ คร่าชีวิตผู้คนไป 74 คน และคาดว่าจะทำให้เกิดโคลนถล่มอีกใน 3 ประเทศ
อะกาธาเป็นพายุลูกแรกประจำปี 2553 ของมหาสมุทรแปซิฟิก พัดกระหน่ำชายฝั่งกัวเตมาลาใกล้เม็กซิโกเมื่อวันเสาร์ ทางการกัวเตมาลายืนยันมีผู้เสียชีวิต 63 คน สูญหาย 24 คน อพยพออกจากบ้านเรือนมากกว่า 74,000 คน โดยที่เมืองซานอันโตนิโอปาโลโป ห่างจากกรุงกัวเตมาลาซิตีไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 160 กิโลเมตร เกิดโคลนถล่มขนาดใหญ่ พบผู้เสียชีวิต 14 คน และเชื่อว่ายังถูกฝังอยู่ใต้โคลนอีก 8-10 คน ฝนตกหนักสร้างความวิตกว่าจะสร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตกาแฟในกัวเตมาลา ผู้ผลิตกาแฟใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง และผลผลิตกาแฟในเอลซัลวาดอร์ เจ้าหน้าที่เตือนว่าอาจเกิดฝนตกหนักอีกหลายวัน ประธานาธิบดีอัลวาโร โคลอม ของกัวเตมาลา แถลงข่าวว่า หลายพื้นที่เกิดฝนตกหนักวัดระดับได้สูงกว่า 1 เมตร ถนนหนทางถูกตัดขาด แต่คาดว่าสภาพอากาศจะดีขึ้นเล็กน้อยในวันนี้เอื้อต่อการส่งสิ่งของบรรเทา ทุกข์ทางอากาศ เจ้าหน้าที่กัวเตมาลาเกรงว่า น้ำท่วมจากฝนตกหนักอาจเลวร้ายลงเพราะเถ้าภูเขาไฟปากายาที่ปะทุตั้งแต่วัน พฤหัสบดี ทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน ขณะนี้ภูเขาไฟยังปะทุอยู่แต่ลดความรุนแรงลงแล้ว
ส่วนที่เอลซัลวาดอร์ มีผู้เสียชีวิต 9 คน และต้องอพยพไปอยู่ที่พักชั่วคราวมากกว่า 8,000 คน ขณะที่ฮอนดูรัสมีผู้เสียชีวิต 1 คน เพราะบ้านพังทับ และมีเด็กถูกน้ำซัดหายไป 1 คน เจ้าหน้าที่เตือนว่า อาจเกิดโคลนถล่มจากเนินเขาที่ซับน้ำไว้ไม่ไหว