แม่รอเก้อ เตรียมงานรอร่างลูกชายเหยื่อแทงก์ระเบิด ศพถูกเรียกกลับไปตรวจใหม่
แม่รอเก้อ เตรียมงานรอร่างลูกชายเหยื่อแทงก์ระเบิดที่บ้านเกิด จ.เชียงราย ศพถูกตำรวจเรียกกลับไปตรวจใหม่ที่กรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ถังบรรจุสารเคมี ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ถ.ไอแปด ท่าเรือมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายนพพร เรือนมา อายุ 35 ปี ชาว อ.พาน จ.เชียงราย
ล่าสุดที่วัดปูแกง ม.1 ต.แม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย ทางญาติๆ และชาวบ้านบ้านปูแกง ได้มาช่วยกันเตรียมสถานที่เพื่อจัดพิธีศพ โดยได้นำเต็นท์มากางที่หน้าศาลาอเนกประสงค์ พร้อมจัดเตรียมโลงเย็น และสถานที่สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดวันฌาปนกิจศพ โดยต้องรอศพของนายนพพร กลับมาถึงบ้านเกิดก่อน ถึงจะมีการพุดคุยกำหนดวันอีกครั้งหนึ่ง
นางปั๋น เรือนมา อายุ 67 ปี มารดาผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ครอบครัวตนมีลูก 2 คน นายนพพรที่เสียชีวิตเป็นลูกคนที่ 2 สมัยเด็กๆ หรือสมัยเรียนลูกชายก็ชอบช่วยเหลือคนอื่นเป็นประจำ เป็นคนขยันขันแข็งและประหยัดอดออม โดยได้ไปทำงานที่ระยองเมื่อประมาณ 8-9 ปีก่อน ก่อนจะแต่งงานได้ประมาณ 5 ปี มีลูกชาย 1 คน ปัจจุบันอายุเพียงแค่ 3 ขวบกว่าเท่านั้น
วันเกิดเหตุตนไม่ทราบเรื่อง มีเพื่อนบ้านมาตามที่บ้าน บอกมีเรื่องจะคุยด้วย เพราะกลัวตนเสียใจจนทำใจไม่ได้ แต่สุดท้ายก็แจ้งข่าวร้านว่า ลูกชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในที่ทำงาน ที่ จ.ระยอง ตอนได้ยินข่าวทีแรกแทบจะช็อก ทำใจไม่ได้ ไม่คาดคิดว่าลูกคนเล็กจะจากไปเร็ว คิดถึงลูกทีไรน้ำตาก็จะไหล โดยบุตรชายถือเป็นเสาหลักของครอบครัว โดยจะดูแลและส่งเงินให้กับทั้งทางบ้านพ่อแม่ และทางครอบครัวของภรรยาใช้ ช่วยเหลือพ่อแม่สร้างบ้านใหม่และซื้อบ้านที่ จ.ระยอง การจากไปของลูกถือเป็นสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว
ด้านนางศรีวรรณ ราชคม อายุ 54 ปี แม่ยายของผู้ตาย กล่าวว่า ลูกเขยเป็นคนดี ดูแลพ่อแม่ทั้ง 2 บ้านอย่างดีตลอด ถ้าดวงวิญญาณลูกเขยรับรู้ก็อยากจะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไร หลานชายก็จะดูแลให้อย่างดี เรื่องหนี้สินบ้านที่ระยอง หลังเสร็จงานศพถ้ามีเงินเหลือก็จะไปจัดการให้
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางครอบครัวนำโดยพี่ชายและภรรยาของนายนพพร ได้เดินทางไปรับศพของนายนพพรที่โรงพยาบาล จ.ระยอง เพื่อนำร่างกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดที่ จ.เชียงราย แต่มีรายงานว่าภายหลังจากได้รับศพออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว ระหว่างเดินทางทางตำรวจได้ขอระงับการนำร่างกลับ จ.เชียงราย โดยจะขอชันสูตรพลิกศพเพิ่มเติม ทำให้ทางญาติต้องนำศพกลับไปส่งให้กับตำรวจก่อน ถึงจะนำกลับมาทำพิธีได้ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะสามารถรับร่างกลับมาได้เมื่อไหร่