"ทนายด่าง" เปิดข้อมูลใหม่ "บุ้ง ทะลุวัง" เสียชีวิต พบมีการใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่ง
"ทนายด่าง" เปิดข้อมูลใหม่ "บุ้ง ทะลุวัง" เสียชีวิต พบว่า รพ.ราชทัณฑ์ ใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่ง จากหลอดลมเป็นหลอดอาหาร ออกซิเจนไม่เข้าปอด
(18 พ.ค.2567) เมื่อเวลา 16.30 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่ครอบครัวไม่ได้รับความร่วมมือในการเปิดเผยรายงานการรักษา
ประเด็นแรกยังยืนยันว่าทาง รพ.กรมราชทัณฑ์ ยังไม่ได้ส่งรายละเอียด 5 วัน การรักษาบุ้ง ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พ.ค. มาให้ตามที่เคยร้องขอไป แม้ว่าจะผ่านมา 4 วันแล้ว ซึ่งการที่ขอย้อนหลังเพียง 5 วัน เพื่อเลี่ยงที่จะมีข้ออ้างว่า ถ้าขอผลการรักษายาวกว่านั้น ต้องใช้เวลา ทั้งที่ความจริงเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ข้อมูลเพียง 5 วันย้อนหลังจะบ่งชึ้งการรักษาว่าได้มาตรฐานหรือไม่อย่างไร รวมทั้งกล้องวงจรปิดก็ยังไม่ได้เช่นกัน
ทนายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า ประเด็นหลักคือรายงานการรักษาจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติที่ส่งมาให้ ระบุว่า บุ้ง มาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เวลา 09.30 น. ซึ่งไม่หายใจและไม่มีสัญญาณชีพ วัดค่าลมหายใจเป็นศูนย์ และที่สําคัญมีการตรวจพบว่า การรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อนมาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ นั้น มีการทําที่ผิดพลาด คือใส่ท่อช่วยหายใจผิดตําแหน่ง โดยใส่ในหลอดอาหารแทนที่จะใส่ในหลอดลม เพื่อนําออกซิเจนเข้าไปช่วยในการหายใจ มีหลักฐานยืนยันโดยมีการถ่ายภาพรายละเอียดชัดเจน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ผลของการใส่ท่อช่วยหายใจผิดจุด คืออากาศลมที่ออกไปจะเข้าไปในท้องและในลำไส้ และจากการเข้าร่วมสังเกตด้วยตาในวันชันสูตร ก็เห็นและตอนผ่าชันสูตร ท้องบวมมาก และในลำไส้เต็มไปด้วยลม เพราะท่อหายใจส่งออกซิเจนเข้าไปในหลอดอาหารแทนที่จะเข้าไปในหลอดลมที่จะนำไปสู่ปอดโดยตรง ทำให้การวัดค่าหายใจมีค่าลมหายใจเป็นศูนย์
ทั้งนี้เรายังค้นพบสารบางอย่าง ซึ่งเราจะวิเคราะห์ และแยกแยะจากผลตรวจเลือดต่อไป เรายืนยันว่า น.ส.เนติพร เริ่มรับอาหาร และมีการให้ยาและให้โพแทสเซียม เขาก็รับมาตลอด ทนายความไปเยี่ยมทุกวัน และไม่เคยได้รับทราบข้อมูลหรือแพทย์แจ้งว่าน้องปฏิเสธการรับยา และโพแทสเซียม หรือมีการให้อะไรที่ผิดพลาดจึงปกปิดรายงาน ยืนยันว่าจะไม่จบ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้เสียชีวิตในการควบคุมดูแลของโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโดยโรงพยาบาลราชทัณฑ์
ตนได้แจ้งให้พี่สาวของ น.ส.เนติพร ทราบแล้ว เพื่อไปดำเนินการในชั้นศาลต่อไป พร้อมกันนี้ยังพบว่ามีค่าบางอย่างในตัวของ น.ส.เนติพรที่มีค่าสูง แต่ตอนนี้ทางหมอที่ขอตรวจดูอีกหน่อย ซึ่งตนยังบอกได้ว่าเป็นค่าอะไร และตนก็ตกใจว่ามันทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ