น้ำนิ่งไหลลึก เช็กโปรไฟล์ "ม็อคห์เบอร์" รักษาการ ปธน.อิหร่าน หลัง "ไรซี" ฮ.ตกเสียชีวิต
สำนักข่าวเอพีรายงาน ประวัติชีวิตและเส้นทางการเมืองของ "โมฮัมหมัด ม็อคห์เบอร์" รองประธานาธิบดีคนที่หนึ่งแห่งอิหร่าน ที่เพิ่งขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ สืบเนื่องจากการเสียชีวิตกะทันหันของ "อิบราฮิม ระอีซี"
อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศแต่งตั้งม็อคห์เบอร์ร่วมกับการแถลงแจ้งข่าวการเสียชีวิตของระอีซีในเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศในวันอาทิตย์ โดยม็อคห์เบอร์จะอยู่ในตำแหน่งเป็นเวลาราว 50 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไป
รอง ปธน.เบอร์หนึ่งรายนี้ ไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนมากนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ว่ามีบทบาทที่สำคัญในโครงสร้างทางอำนาจของอิหร่าน โดยเฉพาะในกองทุนการกุศล หรือที่เรียกว่า “บอนยาด”
บอนยาดคือกองทุนที่มีรายรับจากการบริจาคและสินทรัพย์ที่ยึดได้หลังการปฏิวัติอิสลามในปี 1979 จากผู้ที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าชาห์หรือรัฐบาลเดิมที่ถูกโค่นล้ม โดยม็อคเบอร์มีหน้าที่ดูแลบอนยาดที่มีชื่อย่อในภาษาอังกฤษว่า EIKO (Execution of Imam Khomeini's Order) หรือกองทุนการบริหารตามบัญชาอิหม่ามโคไมนี ซึ่งสื่อถึงอยาตอลเลาะห์ โคไมนี ผู้นำสูงสุดคนก่อนหน้า
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่ากองทุน EIKO บริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจภายใต้การจัดการโดยตรงของโคไมนี และมีผลประโยชน์ในแทบทุกภาคส่วนของธุรกิจอิหร่าน รวมถึงพลังงาน ภาคบริการทางการเงิน และโทรคมนาคม
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีมาตรการคว่ำบาตรม็อคห์เบอร์ในปี 2021 โดยระบุว่า EIKO “ละเมิดสิทธิของผู้เห็นต่างอย่างเป็นระบบด้วยการยึดที่ดินและทรัพย์สินฝ่ายตรงข้ามของระบอบ” ไม่เพียงเท่านั้น สหภาพยุโรป (EU) ยังคว่ำบาตรม็อคห์เบอร์ในช่วงระยะเวลาหนึ่งสืบเนื่องจากการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ในประเทศ
ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก ม็อคห์เบอร์ ในฐานะประธาน EIKO ประกาศจะจัดทำวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 10 ล้านโดสให้ประชาชน แต่ท้ายที่สุดก็จัดทำได้เพียงเศษเสี้ยวของคำประกาศดังกล่าวโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ
ในอดีต ม็อคห์เบอร์เคยทำงานในภาคส่วนธนาคารและโทรคมนาคม และเคยทำงานในมูลนิธิมอสตาซาฟาน ซึ่งเป็นบอนยาดอีกแห่งที่บริหารจัดการโครงการเมกะโปรเจคของภาครัฐและเอกชนของอิหร่าน
ในช่วงเวลาดังกล่าว เขาถูกฟ้องร้องจากบริษัทโทรคมนาคมสัญชาติตุรกี เติร์กเซลล์ ที่กล่าวหาว่าม็อคห์เบอร์ไปต่อรองกับบริษัทโทรคมนาคม MTN ของแอฟริกาใต้ให้ช่วยจัดหาอุปกรณ์การทหารบางอย่าง เพื่อแลกกับสิทธิ์การเข้ามาทำธุรกิจในอิหร่านจนทำให้เติร์กเซลล์ที่กำลังเจรจาเพื่อเข้าตลาดอิหร่านเสียประโยชน์
รายงานของ MTN ในเวลาต่อมาระบุว่า ไม่มีการแลกเปลี่ยนอาวุธกัน แต่ก็ยอมรับว่าม็อคห์เบอร์เป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ทำให้อิหร่านตัดสินใจให้ MTN เข้ามาทำธุรกิจนั้น
การรายงานของสื่ออิหร่านระบุว่าม็อคห์เบอร์ ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นผู้มีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการนำอุตสาหกรรมน้ำมันหลุดรอดไปจากการคว่ำบาตรของตะวันตก
ในปี 2022 ม็อคห์เบอร์ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาผู้นำสูงสุด ที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษาผู้นำสูงสุดและคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างรัฐสภาและสภาผู้พิทักษ์ (Guardian Council) ที่มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง
ม็อคห์เบอร์เกิดวันที่ 1 กันยายน 1955 ใน จังหวัดคูเซสถาน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่านในครอบครัวของครูสอนศาสนา และต่อมาเข้าปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยแพทย์ของกองกำลังปฏิวัติอิสลามในช่วงสงครามอิหร่าน-อิรัก ช่วงทศวรรษที่ 1980 อ้างอิงจากกลุ่มต่อต้าน United Against Nuclear Iran (UANI)
UANI ระบุว่า ม็อคห์เบอร์ใช้ความมั่งคั่งมหาศาลที่สะสมโดย EIKO เพื่อสร้างประโยชน์ให้คนและเครือข่ายอุปถัมภ์ในระบอบ โดยมีคนที่ต้องจ่ายต้นทุนก็คือประชาชนคนธรรมดาชาวอิหร่าน