น้ำนิ่งไหลลึก เช็กโปรไฟล์ "ม็อคห์เบอร์" รักษาการ ปธน.อิหร่าน หลัง "ไรซี" ฮ.ตกเสียชีวิต

น้ำนิ่งไหลลึก เช็กโปรไฟล์ "ม็อคห์เบอร์" รักษาการ ปธน.อิหร่าน หลัง "ไรซี" ฮ.ตกเสียชีวิต

น้ำนิ่งไหลลึก เช็กโปรไฟล์ "ม็อคห์เบอร์" รักษาการ ปธน.อิหร่าน หลัง "ไรซี" ฮ.ตกเสียชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำนักข่าวเอพีรายงาน ประวัติชีวิตและเส้นทางการเมืองของ "โมฮัมหมัด ม็อคห์เบอร์" รองประธานาธิบดีคนที่หนึ่งแห่งอิหร่าน ที่เพิ่งขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ สืบเนื่องจากการเสียชีวิตกะทันหันของ "อิบราฮิม ระอีซี"

อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศแต่งตั้งม็อคห์เบอร์ร่วมกับการแถลงแจ้งข่าวการเสียชีวิตของระอีซีในเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศในวันอาทิตย์ โดยม็อคห์เบอร์จะอยู่ในตำแหน่งเป็นเวลาราว 50 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไป

รอง ปธน.เบอร์หนึ่งรายนี้ ไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนมากนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ว่ามีบทบาทที่สำคัญในโครงสร้างทางอำนาจของอิหร่าน โดยเฉพาะในกองทุนการกุศล หรือที่เรียกว่า “บอนยาด”

บอนยาดคือกองทุนที่มีรายรับจากการบริจาคและสินทรัพย์ที่ยึดได้หลังการปฏิวัติอิสลามในปี 1979 จากผู้ที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าชาห์หรือรัฐบาลเดิมที่ถูกโค่นล้ม โดยม็อคเบอร์มีหน้าที่ดูแลบอนยาดที่มีชื่อย่อในภาษาอังกฤษว่า EIKO (Execution of Imam Khomeini's Order) หรือกองทุนการบริหารตามบัญชาอิหม่ามโคไมนี ซึ่งสื่อถึงอยาตอลเลาะห์ โคไมนี ผู้นำสูงสุดคนก่อนหน้า

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่ากองทุน EIKO บริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจภายใต้การจัดการโดยตรงของโคไมนี และมีผลประโยชน์ในแทบทุกภาคส่วนของธุรกิจอิหร่าน รวมถึงพลังงาน ภาคบริการทางการเงิน และโทรคมนาคม

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีมาตรการคว่ำบาตรม็อคห์เบอร์ในปี 2021 โดยระบุว่า EIKO “ละเมิดสิทธิของผู้เห็นต่างอย่างเป็นระบบด้วยการยึดที่ดินและทรัพย์สินฝ่ายตรงข้ามของระบอบ” ไม่เพียงเท่านั้น สหภาพยุโรป (EU) ยังคว่ำบาตรม็อคห์เบอร์ในช่วงระยะเวลาหนึ่งสืบเนื่องจากการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ในประเทศ

ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก ม็อคห์เบอร์ ในฐานะประธาน EIKO ประกาศจะจัดทำวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 10 ล้านโดสให้ประชาชน แต่ท้ายที่สุดก็จัดทำได้เพียงเศษเสี้ยวของคำประกาศดังกล่าวโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ

ในอดีต ม็อคห์เบอร์เคยทำงานในภาคส่วนธนาคารและโทรคมนาคม และเคยทำงานในมูลนิธิมอสตาซาฟาน ซึ่งเป็นบอนยาดอีกแห่งที่บริหารจัดการโครงการเมกะโปรเจคของภาครัฐและเอกชนของอิหร่าน

ในช่วงเวลาดังกล่าว เขาถูกฟ้องร้องจากบริษัทโทรคมนาคมสัญชาติตุรกี เติร์กเซลล์ ที่กล่าวหาว่าม็อคห์เบอร์ไปต่อรองกับบริษัทโทรคมนาคม MTN ของแอฟริกาใต้ให้ช่วยจัดหาอุปกรณ์การทหารบางอย่าง เพื่อแลกกับสิทธิ์การเข้ามาทำธุรกิจในอิหร่านจนทำให้เติร์กเซลล์ที่กำลังเจรจาเพื่อเข้าตลาดอิหร่านเสียประโยชน์

รายงานของ MTN ในเวลาต่อมาระบุว่า ไม่มีการแลกเปลี่ยนอาวุธกัน แต่ก็ยอมรับว่าม็อคห์เบอร์เป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ทำให้อิหร่านตัดสินใจให้ MTN เข้ามาทำธุรกิจนั้น

การรายงานของสื่ออิหร่านระบุว่าม็อคห์เบอร์ ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นผู้มีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการนำอุตสาหกรรมน้ำมันหลุดรอดไปจากการคว่ำบาตรของตะวันตก

ในปี 2022 ม็อคห์เบอร์ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาผู้นำสูงสุด ที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษาผู้นำสูงสุดและคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างรัฐสภาและสภาผู้พิทักษ์ (Guardian Council) ที่มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง

ม็อคห์เบอร์เกิดวันที่ 1 กันยายน 1955 ใน จังหวัดคูเซสถาน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่านในครอบครัวของครูสอนศาสนา และต่อมาเข้าปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยแพทย์ของกองกำลังปฏิวัติอิสลามในช่วงสงครามอิหร่าน-อิรัก ช่วงทศวรรษที่ 1980 อ้างอิงจากกลุ่มต่อต้าน United Against Nuclear Iran (UANI)

UANI ระบุว่า ม็อคห์เบอร์ใช้ความมั่งคั่งมหาศาลที่สะสมโดย EIKO เพื่อสร้างประโยชน์ให้คนและเครือข่ายอุปถัมภ์ในระบอบ โดยมีคนที่ต้องจ่ายต้นทุนก็คือประชาชนคนธรรมดาชาวอิหร่าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook