สยองกลางกรุง พบศพในตู้คุมไฟฟ้าเก่าบนทางเท้า นอนคุดคู้กำสายไฟ ตายนานจนขึ้นอืด

สยองกลางกรุง พบศพในตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าเก่าบนฟุตปาธ นอนคุดคู้ มือกำสายไฟ ตายนานจนศพขึ้นอืด

เมื่อเวลา 07.20 น. วันที่ 23 พ.ค. ร.ต.ท.อนุกูล จันทร์เจ๊ก รอง สว.(สอบสวน)สน.มีนบุรี รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านวันโฮมวัสดุก่อสร้าง ใกล้แยกร่มเกล้า ถนนร่มเกล้า แขวงและเขตมีนบุรี กทม.

รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบนฟุตปาธพบตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าทิ้งร้างผุพัง ตู้กว้าง 45 ซม. ยาว 90 ซม. สูง 100 ซม. ฝาตู้เปิด ตั้งอยู่บนฐานปูนกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร 30 ซม. มองลงไปจากหน้าตู้เปิดพื้นฐานเปิดเป็นช่อง(รู) กว้าง 40 ซม. ยาว 80 ซม. ลึกประมาณ 1 เมตร ที่ช่องว่างใต้ฐานปูนพบศพนอนหงายคุดคู้ มือขวากำสายไฟ เสียชีวิตมาแล้วหลายวันส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ใกล้กันพบขวดเหล้าขาวพร้อมน้ำดื่มตั้งอยู่ข้างตู้

เจ้าหน้าที่ต้องประสานการไฟฟ้านครหลวง(มีนบุรี)ตัดไฟ เพื่อความปลอดภัยและให้มูลนิธิร่วมกตัญญูใช้เครื่องมือถอดตู้ออก และใช้เครื่องมือสกัดปูนนำศพขึ้นมา เป็นศพผู้ชาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สภาพศพบวมขึ้นอืด ในกระเป๋ากางเกงพบถุงยาเส้น ถุงกระดาษห่อยาเส้น ไฟแช็ก และแบงก์ 20 บาท 1 ใบ มือที่กำสายไฟดำเละ ศพไม่สามารถตรวจหาบาดแผลอย่างอื่นได้ คาดเสียชีวิตมาแล้ว 2-3 วัน ภายในบ่อพบถุงมือและรองเท้าแตะสีดำคาดเป็นของผู้ตาย

จากการสอบสวน นางปนัดดา งอกงาม อายุ 44 ปี พนักงานกวาดขยะของสำนักงานเขตมีนบุรี ให้การว่า วันนี้เวลาประมาณ 06.40 น. ขณะที่ตนกำลังกวาดขยะใบไม้บริเวณทางเดินแยกร่มเกล้าได้กลิ่นเหม็นบริเวณตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าเป็นตู้เก่าไม่ได้ใช้งานเดินเข้าไปดูพบเป็นชายนอนเสียชีวิตอยู่ภายในและมีกลิ่นเหม็น รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.มีนบุรี ประจำป้อมแยกร่มเกล้า

ด้าน พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวว่าเบื้องต้นยังไม่แนชัดผู้ตายลงไปเสียชีวิตได้อย่างไร

สันนิษฐานผู้ตายน่าจะมีรูปร่างเล็กผอมหย่อนตัวลงไปขึ้นมาไม่ได้หรือถูกไฟช็อตเสียชีวิต ทั้งนี้ดูภายในบ่อแล้วมีแค่รูท่อร้อยสายเล็กๆ ซ้ายขวาไม่น่ามุดมาจากจุดอื่น ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดจุดเกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงและส่งศพชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป