"ทุเรียน" ถูกโชว์ใน "พิพิธภัณฑ์อาหารน่าขยะแขยง" ที่สวีเดน คนถกเถียงกันเสียงแตก

"ทุเรียน" ติดอันดับ 17 ในพิพิธภัณฑ์อาหารน่าขยะแขยงที่สวีเดน คนถกเถียงกันเสียงแตก บอกทุเรียนเป็นถึงราชาผลไม้ 

อินสตาแกรม Karim Bukhadurov อินฟลูเอนเซอร์ด้านท่องเที่ยวในสวีเดน ได้โพสต์วิดีโอ เผยให้เห็นบรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ “Disgusting Food Museum” ในเมืองมัลโม ประเทศสวีเดน ที่รวบรวมเอาอาหารที่ดูน่าขยะแขยงที่สุดในโลกเอาไว้

วิดีโอของคาริมมียอดเข้าชมมากกว่า 6.7 ล้านครั้ง ชาวเน็ตหลายคนประหลาดใจที่มีอาหารจากประเทศของตนปรากฏอยู่ในพิพิธภัณฑ์ และเมนูที่ทำชาวเอเชียถกเถียงกันอย่างหนักคือ “ทุเรียน” เพราะหลายคนมองว่ารสชาติของทุเรียนมันไม่ได้แย่ขนาดที่จะเรียกว่า "น่าขยะแขยง" มีคนมากมายที่ชื่นชอบ เป็นผลไม้ที่ยอดเยี่ยมในเอเชีย และราคาค่อนข้างแพงด้วย การจัดอันดับทุเรียนลงไปถือว่าเป็นบาป

โดยบนเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์จัดทุเรียนอยู่ในอันดับที่ 17 และมีคำอธิบายว่า “ทุเรียนถือเป็นราชาแห่งผลไม้และขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นฉุนรุนแรง บางคนคิดว่ามันหอมหวาน ในขณะที่บางคนก็คิดว่ากลิ่นเหมือนหัวหอมเน่า หรือถุงเท้าที่ไม่ได้ซัก หรือฝูงแมวที่ตายแล้ว การกินทุเรียนเป็นสิ่งต้องห้ามในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะและโรงแรมในหลายพื้นที่ทั่วโลก”

พิพิธภัณฑ์อาหารน่าขยะแขยง หรือ Disgusting Food Museum เปิดมานานหลายปี โดยได้ปรับการเปลี่ยนโฉมมาจากโรงฆ่าสัตว์เก่า จุดประสงค์นอกเหนือจากการรวบรวมอาหารที่น่าขยะแขยงจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว ยังมุ่งเน้นให้ผู้เข้าชมตั้งคำถามถึงรสนิยมและความรู้สึกที่คนเรามีต่ออาหารจานหนึ่ง เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าความคิดเหล่านี้ จริงๆ แล้วเกี่ยวข้องกับบริบททางวัฒนธรรมและสังคม อาหารบางอย่างที่เรามองว่าไม่น่ากิน อาจเป็นของอร่อยสำหรับคนในอีกพื้นที่หนึ่ง 

หนึ่งในผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์บอกว่า ความรู้สึกน่าขยะแขยง ถูกกำหนดตามความรู้สึกของแต่ละคน เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าเราโตมากับอะไร เหมือนการปลูกฝังวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ถ้าเราเคยชินกับอะไรเราก็จะไม่รู้สึกขยะแขยงสิ่งนั้น 

โดยอาหารที่จะนำมาจัดแสดง มีมากกว่า 80 ชิ้น ได้แก่ “ชีสเน่า” จากซาร์ดิเนีย ซึ่งก็คือ ชีส นมแกะที่ภายในมีรูพรุนและเต็มไปด้วยหนอน ปลาเฮอริงหมักของสวีเดน ซึ่งหลายคนบอกว่ามีกลิ่นเหม็นเน่า นอกจากทุเรียน ก็ยังมีอาหารที่เราคุ้นเคยอย่าง ไข่เยี่ยวม้า หนอน รวมทั้งสมูทตี้กบจากเปรู เต้าหู้ที่ทำจากถั่วเหม็น ซุปค้างคาว อวัยะเพศของวัวจากประเทศจีน นอกจากนี้ยังมีอาหารหลายๆ อย่างยังถูกปรุงขึ้นใหม่จากที่นี่ อยู่ที่ว่าคุณจะกล้าชิมหรือไม่