หลอนกันหมด เด็ก 7 ขวบ อาการคล้าย "ผีเข้า" หลังดื่มนมถั่วเหลือง หมอตรวจถึงรู้เป็นอะไร

หลอนกันหมด เด็ก 7 ขวบ อาการคล้าย "ผีเข้า" หลังดื่มนมถั่วเหลือง หมอตรวจถึงรู้เป็นอะไร

หลอนกันหมด เด็ก 7 ขวบ อาการคล้าย "ผีเข้า" หลังดื่มนมถั่วเหลือง หมอตรวจถึงรู้เป็นอะไร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลอนกันหมด จู่ๆ เด็กหญิง 7 ขวบ อาการคล้าย “ผีเข้า” หลังดื่มนมถั่วเหลือง หมอตรวจถึงรู้ป่วยอะไร

ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันนั้น ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลประชาชนมณฑลเจ้อเจียง เด็กสาวชาวจีนวัย 7 ขวบ ทานข้าวมื้อเช้าพร้อมกับพ่อ และดื่มนมถั่วเหลืองต้มตามปกติ โดยไม่คาดคิดว่าไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทั้งคู่จะต้องถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล

เมื่อผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาล แผนกฉุกเฉินจึงรีบเรียกทีมฉุกเฉินและทีมกุมารเวชเข้าดูแล ด้วยประสบการณ์ทางคลินิกที่สั่งสมมายาวนาน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จึงระบุได้อย่างรวดเร็วว่าพ่อและลูกสาวน่าจะป่วยเป็นโรค “อาหารเป็นพิษ”

รองผู้อำนวยการแผนกกุมารเวชศาสตร์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในแผนกฉุกเฉินในวันนั้น เล่าว่า เด็กมีอาการตื่นตัวมากเมื่อเข้ารับการรักษา ราวกับว่าถูกครอบงำด้วยบางสิ่ง และบางครั้งก็ท่องวลีแปลก ๆ เช่น "อาจารย์อยู่ที่นี่" และ “อยากไปเรียน” สลับกับการตะโกนว่าเวียนหัว ไม่สบายใจ แสดงสีหน้าเจ็บปวดและหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อแพทย์หรือสมาชิกในครอบครัวสอบถามเธออะไรไป ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม พูดคุยไม่รู้เรื่อง

หลังจากที่เด็กถูกส่งมาถึงแผนกกุมารเวชศาสตร์ แพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายโดยละเอียด และสอบถามผู้เป็นแม่เกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ระหว่างนั้นทีมแพทย์ก็ได้ดำเนินมาตรการต่างๆ แก่เด็ก เช่น การให้น้ำ ขับปัสสาวะ และสวนทวาร เพื่อลดการสะสมของสารพิษในร่างกาย โชคดีที่หลังจากการช่วยเหลือเบื้องต้นเช่นนี้ สติรับรู้ของเด็กก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เป็นการยืนยันว่าพฤติกรรมที่ผิดปกตินั้น น่าจะเกิดจากความผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดจากสารพิษ

หลังจากซักถามผู้ปกครอง ก็ได้รู้ว่าเด็กเริ่มรู้สึกไม่สบายหลังจากกิน “นมถั่วเหลือง” ซึ่งที่บ้านทำดื่มกันเอง อย่างไรก็ตาม ในตอนแรกอาการไม่รุนแรง มีเพียงอาการวิงเวียนศีรษะ ไม่มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนเลย ครอบครัวจึงไม่ได้ใส่ใจเป็นพิเศษ จนกระทั่งต่อมาอาการวิงเวียนศีรษะแย่ลง มีอาการสับสนและหงุดหงิด คุณครูในโรงเรียนสังเกตเห็นและถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลทันที

เกือบในเวลาเดียวกัน พ่อที่ดื่มนมถั่วเหลืองชนิดเดียวกันก็มีอาการคล้ายกัน และเนื่องจากดื่มในปริมาณที่มากกว่า อาการของพิษต่อระบบประสาทจึงชัดเจนยิ่งขึ้น แต่หลังจากรับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ก็ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน

 

กรณีนี้แพทย์วิเคราะห์ว่า ถั่วเหลืองอุดมไปด้วยโปรตีนและมีสารลดแรงตึงผิวตามธรรมชาติ เช่น ซาโปนิน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการผลิตโฟมคล้ายสบู่จำนวนมากบนพื้นผิว เมื่อพ่อต้มอย่างเร่งรีบในตอนเช้า เห็นฟองจึงดูเหมือนว่านมถั่วเหลืองกำลังเดือด แต่อุณหภูมิจริงอาจอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเท่านั้น

เมื่ออุณหภูมิไม่เพียงพอ สารที่เป็นอันตรายในถั่วเหลือง หรือที่เรียกว่าปัจจัยต่อต้านโภชนาการ รวมถึงสารยับยั้งโปรตีเอส ยูรีเอส เลคติน ฯลฯ จะไม่สามารถถูกทำลายหรือทำให้หมดฤทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดอาการเป็นพิษหลังบริโภค ดังนั้น หากจะดื่มได้อย่างปลอดภัยควรต้มทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook