เจ้าทาสควรรู้! ผลวิจัยหาคำตอบชี้ชัด แมวเลี้ยงสายพันธุ์ใดอายุขัยเฉลี่ยสั้นที่สุด?

เจ้าทาสควรรู้! ผลวิจัยหาคำตอบชี้ชัด แมวเลี้ยงสายพันธุ์ใดอายุขัยเฉลี่ยสั้นที่สุด?

เจ้าทาสควรรู้! ผลวิจัยหาคำตอบชี้ชัด แมวเลี้ยงสายพันธุ์ใดอายุขัยเฉลี่ยสั้นที่สุด?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Feline Medicine and Surgery เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 24 เปิดเผยผลการศึกษาอายุขัยเฉลี่ยของแมวบ้าน (Domestic) และพบสายพันธุ์แมวที่อายุยืนที่สุด รวมถึงสายพันธุ์ที่อายุขัยเฉลี่ยสั้นที่สุด

ทั้งนี้ การศึกษาโฟกัสเฉพาะแมวเลี้ยงในสหราชอาณาจักรจำนวนเกือบ 8,000 ตัว ที่ตายระหว่างเดือนม.ค. 19 ถึง มี.ค. 21 เท่านั้น ทำให้อาจไม่สามารถเป็นภาพแทนของประชากรแมวทั้งหมดบนโลกได้

กระนั้น แดน โอนีลล์ นักระบาดวิทยาทางสัตวแพทย์ จากราชวิทยาลัยสัตว์แพทย์ในลอนดอน หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า งานวิจัยนี้จะสามารถมอบข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ให้กับผู้ที่เลี้ยงแมวได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแมวของพวกเขา

ทีมวิจัยรายงานว่า พวกเขาศึกษาข้อมูลจากแมวที่ขึ้นทะเบียนกับสัตวแพทย์จำนวน 7,936 ตัวในสหราชอาณาจักรที่ตายระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 19 ถึง 31 มี.ค. 21 เพื่อคำนวณค่าเฉลี่ยอายุขัยของแมว

งานวิจัยพบว่า อายุขัยเฉลี่ยของแมวกลุ่มตัวอย่างอยู่ที่ 11.7 ปี และโดยภาพรวมแล้ว แมวสายพันธุ์ผสมจะมีอายุยืนยาวกว่าแมวพันธุ์แท้ประมาณ 1.5 ปี โดยแมวพันธุ์ผสมมีอายุขัยเฉลี่ย 11.9 ปี ส่วนแมวพันธุ์แท้อายุขัยเฉลี่ย 10.4 ปี
rหากจำแนกตามสายพันธุ์ ทีมวิจัยพบว่า แมวพม่า (Burmese) และ เบอร์แมน (Birman) มีอายุขัยเฉลี่ยยาวนานที่สุดในบรรดาแมวสายพันธุ์ทั่วไป อยู่ที่ 14.4 ปี

ที่มีอายุขัยรองลงมาคือ แมวสยาม (Siamese) อายุขัยเฉลี่ย 11.7 ปี เท่ากับค่าเฉลี่ยทั่วไปพอดี

ในขณะเดียวกัน แมวสฟิงซ์ (Sphynx) เป็นสายพันธุ์แมวที่มีอายุขัยเฉลี่ยน้อยที่สุด เพียง 6.7 ปีเท่านั้น น้อยกว่าแมวพม่าและเบอร์แมนเกินครึ่ง ซึ่งอาจเป็นเพราะความบกพร่องทางพันธุกรรม โรคหัวใจ หรือการเกิดโรคอื่นๆ

สำหรับปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากสายพันธุ์ที่ส่งผลต่ออายุขัยของแมวยังมีเรื่อง เพศ โดยแมวตัวเมียมีอายุขัยเฉลี่ย 12.5 ปี ส่วนตัวผู้อยู่ที่ต่ำกว่า 11.2 ปี ดังนั้น แมวตัวเมียจะมีอายุยืนกว่าแมวตัวผู้เฉลี่ย 1.3 ปี

นอจากนี้ แมวที่ทำหมันจะมีอายุยืนกว่าแมวที่ยังไม่ทำหมัน 1.1 ปี

ทีมงานกล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวมีความสำคัญ เนื่องจากช่วยให้มองเห็นอนาคตได้ โอนีลล์ บอกว่า "โดยพื้นฐานแล้วสิ่งที่เรากำลังทำอยู่คือการให้ความแน่นอนทางสถิติในระดับหนึ่ง ในสิ่งที่ก่อนหน้านี้เป็นเพียงการคาดเดา"
pเขากล่าวเสริมว่า สิ่งนี้อาจมีความสำคัญสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของ องค์กรการกุศล และ สัตวแพทย์ ขณะเดียวกันก็สามารถช่วยผู้ที่อาจกำลังชั่งน้ำหนักการดูแลทางการแพทย์หรือการผ่าตัดที่มีราคาแพงและเจ็บปวดสำหรับแมวของพวกเขา

นักวิจัยรายงานว่า พฤติกรรมการเลี้ยง เช่น เลี้ยงแมวไว้แต่ในบ้าน หรือพาออกไปข้างนอกบ้าง อาจส่งผลต่ออายุขัยโดยประมาณของแมวได้เช่นกัน แต่เป็นเรื่องยากที่จะศึกษาและหาคำตอบที่แน่ชัด

เคนดี เถิง นักระบาดวิทยาในสัตว์เล็กจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติจุงซิงในไต้หวัน หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า การศึกษานี้จะช่วยให้เจ้าของแมวและสัตวแพทย์ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมในการพิจารณาเมื่อจะต้องทำการตัดสินใจที่สำคัญเกี่ยวกับการรับเลี้ยงแมว การรักษาพยาบาล หรือ การุณยฆาต

เธอเสริมว่า การศึกษานี้ยังสร้างผลกระทบทางอารมณ์ที่ไม่คาดคิดต่อเจ้าของแมวบางคนด้วย โดยหลังจากที่เพื่อนคนหนึ่งแชร์ผลการวิจัยบนโซเชียลมีเดีย ได้เกิดกระแสตอบรับเริ่มหลั่งไหลเข้ามา หลายคนพูดว่า "เวลามันสั้นมาก ฉันต้องดูแลแมวของฉันให้ดีกว่านี้" หรือ "ต้องทำให้เวลาที่เหลืออยู่มีค่าที่สุด"

โอนีลล์ กล่าวว่า ความแตกต่างในอายุขัยของแมวแต่ละสายพันธุ์มีขนาดใหญ่มาก

"หากใครก็ตามที่ให้ความสำคัญกับแมว พวกเขาต้องการแมวที่จะอยู่กับพวกเขานานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเรามีข้อมูลให้พวกเขาแล้ว"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook