รู้ไว้ดีกว่า! “ไซบูทรามีน”ในอาหารเสริมคืออะไร อันตรายถึงชีวิตอย่างไร
ช่วงนี้หลายคนคงได้ยินคำว่า "ไซบูทรามีน" อยู่บ่อย ๆ จากข่าวที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาประกาศว่า "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีนักแสดงชื่อดังเป็นพรีเซนเตอร์ มีส่วนผสมของไซบูทรามีนอยู่ จึงเตือนให้ประชาชนระวัง"
ล่าสุดแบรนด์อาหารเสริมออกมาชี้แจ้งถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า "ผลิตภัณฑ์ที่อย.ตรวจพบสารไซบูทรามีน เป็นล็อตผลิตภัณฑ์ปลอม และบริษัทพร้อมให้ตรวจสอบความบริสุทธิ์"
เรื่องนี้ถือว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนที่หลายฝ่ายต่างติดตามว่าจะจบยังไง อย่างไรก็ตามหลายคนเมื่อได้ยินชื่อสารนี้ก็อาจไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้ว สารไซบูทรามีน คืออะไร และ อันตรายต่อร่างกายเราขนาดไหน วันนี้ Sanook จึงพาทุกคนมาไขข้อสงสัยทั้งหมดนี้กัน จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
ไซบูทรามีน คืออะไร?
ไซบูทรามีน เป็นสารที่มักถูกนำมาใช้ในยาลดน้ำหนัก เนื่องจากมีคุณสมบัติออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ลดการทำลายสารสื่อประสาทอย่าง ซิโรโทนิน, นอร์อีพิเนฟริน และโดปามีน ทำให้สารเหล่านี้ทำงานนานขึ้น จึงส่งผลทำให้มีความรู้สึกไม่หิวหรืออิ่มเร็วขึ้น
อาการที่พบหากทานไซบูทรามีน
ในผู้ป่วยแต่ละคนจะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามเราสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ดังนี้
- ท้องผูก
- ปากแห้ง
- นอนไม่หลับ
- คลื่นไส้ จนถึงขั้นอาเจียน
- หัวใจเต้นเร็ว
- ใจสั่น
- สับสน
- อ่อนแรง
- ปวดหัว
นอกจากนี้หากผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือผู้มีความเสี่ยงโรคร้ายต่าง ๆ หากรับประทานยาที่มีส่วนผสมของ “ไซบูทรามีน” เข้าไป อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายและโรคหลอดเลือดสมองได้
อันตรายจากไซบูทรามีน
หากรับประทานไซบูทรามีน เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคร้าย เช่น ภาวะความดันโลหิตสูง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, ภาวะอารมณ์ดีกว่าปกติ (Mania), ซึมเศร้าทำให้อยากฆ่าตัวตาย
ไซบูทรามีนเคยถูกกฎหมาย
ในอดีตไซบูทรามีน ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการลดน้ำหนัก โดยได้มีบริษัทยาขึ้นทะเบียนตำรับยา แต่หลังจากที่ตรวจพบว่าการใช้ไซบูทรามีน เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด อาจทำให้เสียชีวิต บริษัทยาดังกล่าวจึงสมัครใจขอยกเลิกยาไซบูทรามีน
ปัจจุบันไซบูทรามีน จัดเป็นยาเสพติดประเภท 1 ตามประมวลกฎหมาย อย่างไรก็ตามยังมีการลักลอบซื้อขายกันอย่างแพร่หลาย
กฎหมายกับไซบูทรามีน
- กรณีนำเข้าหรือ ส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีไซบูทรามีนเป็นส่วนผสม: จำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 5 แสนบาท - 2 ล้านบาท
- กรณีขาย: มีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4 แสนบาท - 2 ล้านบาท
- กรณีโฆษณาเกี่ยวกับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต: จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ **ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
- กรณีหากมีไว้ในครอบครอง: จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- กรณีการเสพยาเสพติด: จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ