มาร์ค สุรเดช ฟันธง บอลโลกกลุ่ม ดี

มาร์ค สุรเดช ฟันธง บอลโลกกลุ่ม ดี

มาร์ค สุรเดช ฟันธง บอลโลกกลุ่ม ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

วิเคราะห์เจาะลึก ศึกฟุตบอลโลก 2010 จาก มาร์ค สุรเดช ผู้บรรยายกีฬา True Visions และ บรรณาธิการบทความ FourFourTwo

แอลจีเรีย vs สโลวีเนีย
ราบาห์ ซาดาน โค้ชแอลจีเรีย ตัดสินใจดร็อป กัปตันทีม ยาซิด มันซูรี่ ไม่ได้ลงเล่นในเกมนี้หลังจากผลงานช่วงหลังไม่น่าประทับใจ โดยคู่กลางจะเป็น ฮัสซัน เย็ปด้า จาก ปอร์ทสมัธ จับคู่กับ เมห์ดี้ ลาเค่น ตรงกลางสนาม ส่วนแดนหลังมี อันเตอร์ ยาเฮีย เป็นแกนหลัก นอกจากนี้รายของ ฟาอูชี่ ชาอูชี่ ผู้รักษาประตู และ นาเดียร์ เบลฮาดจ์ แบ็คซ้ายจะหมดสิทธิ์ลงเล่นเพราะติดโทษแบนที่ค้างมาจากศึก แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ด้าน สโลวิเนีย นั้น กุนซือ มัตยาซ เค็ค ดูจะยึดมั่นกับทีมที่ทำผลงานได้ดีมาต่อเนื่องจากเกมรอบคัดเลือก ซึ่งเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงทีมเลยหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ  โดยทีมชุดนี้มีสตาร์เด่นในแดนกลางอย่าง โรเบิร์ต โคเรน จาก เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน น้องใหม่แต่หน้าเก่าของศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า

มิลิโวเย่ โยวาโนวิช กองหน้าตัวสำคัญพิสูจน์ให้เห็นว่าเขากลับมาฟิตสมบูรณ์เต็มร้อยหลังจากเหมา 2 ประตูในเกมอุ่นเครื่องที่ชนะ นิวซีแลนด์ มา ส่วนคู่ขาในแดนหน้าอีกรายอย่าง ซลาตัน ลุบบิยานคิช ที่เจ็บข้อเท้ามาก่อนนี้ ดูจะฟิตทันเวลาช่วยทีมได้ทันเกมนี้

เกร็ดที่น่าสนใจ
แอลจีเรีย มีโค้ชที่มีประสบการณ์สูงอย่าง ซาดาน ที่ถือเป็นโค้ชชาวแอฟริกันแท้ๆที่มีโอกาสนำทีมลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายถึง 2 หน โดยฟุตบอลโลกหนนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ของพวกเขา ขณะที่ สโลวิเนีย ได้เข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายเป็นหนที่ 2 ในรอบ 8 ปี และยังถือเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีประชากรน้อยที่สุดแต่ได้มาแสดงฝีเท้าในฟุตบอลโลก

ความน่าจะเป็น
หลังจากผ่านเข้ารอบมาได้ ผลงานของ แอลจีเรีย กลับไม่สู้ดีนัก พวกเขาโดน อียิปต์ ถอนแค้นในรอบตัดเชือกของศึก แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ แถมผลงานอุ่นเครื่องยังไม่น่าประทับใจอีก ขณะที่ สโลวิเนีย สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ถึง 6 จาก 7 เกมหลังสุดนับตั้งแต่พ่ายต่อ อังกฤษ เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน

เกมนี้ แอลจีเรีย อาจจะอาศัยการวิ่งสู้ฟัด แต่เทคนิคของนักเตะ สโลวิเนีย ก็ไม่ธรรมดา ชัยชนะน่าจะตกเป็นของฝ่าย สโลวิเนีย มากกว่า

ผลการแข่งขันที่คาด
แอลจีเรีย แพ้ สโลวิเนีย 0-1


กลุ่ม ดี
เซอร์เบีย vs กาน่า
ข่าวดีของ รัดดี้ อันทิช กุนซือของทีมชาติ เซอร์เบีย คือ อาการบาดเจ็บของ เนมานย่า วิดิช ปราการหลังตัวสำคัญที่พลาดลงสนามในเกมอุ่นเครื่องทั้งกับ โปแลนด์ และ แคเมอรูน ฟิตสมบูรณ์ดีแล้ว ส่วนขุมกำลังอื่นๆไม่มีอะไรให้ต้องวิตก หรือ กังวลใจ แต่อย่างใด

ฟาก กาน่า นั้น สเตฟาน อัปเปียห์ ที่แม้จะลงเล่นในระดับสโมสรเพียงหยิบมือในเรื่องจำนวนนัด จะสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมให้กับทีม ดาวดำ ในวันนี้ ส่วนกองกลางตัวสำคัญอีกรายอย่าง ซัลลีย์ มุนตารี่ หายเจ็บต้นขาเป็นปลิดทิ้งแล้ว

รายของ มิชาแอล เอสเซียง ต้องถอนตัวไปเพราะอาการบาดเจ็บ ทำให้ กาน่า ต้องรวมพลังกันอย่างหนักทีเดียวหากหวังจะผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอ้าต์ให้ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

เกร็ดที่น่าสนใจ
นี่จะเป็นหนที่  2  เท่านั้นที่ทั้งสองชาตินี้ได้โคจรมาพบกันโดยครั้งแรกเกิดขึ้นในการแข่งขัน โคเรีย คัพ เมื่อปีประมาณ 1997 โดยครั้งนั้น เซอร์เบีย ภายใต้ชื่อของ ยูโกสลาเวีย เป็นฝ่ายเอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-1

เซอร์เบีย หวังจะทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าหนก่อนที่พวกเขามาร่วมในฐานะของ เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร โดยในรอบสุดท้ายเมื่อ 4 ปีก่อน เซอร์เบีย เสียท่าให้กับคู่แข่งทั้ง 3 เกมในรอบแรก เป็นอันตกรอบสนิท ขณะที่ กาน่า ก็มีสถิติไม่เคยเสมอกับคู่แข่งในรอบสุดท้ายเลยแม้แต่เกมเดียว โดยหนที่แล้วพวกเขาชนะ 2 แพ้  1 ในรอบแรกก่อนจะมาโดนเขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยฝีเท้าของทีม “แซมบ้า” บราซิล

ความน่าจะเป็น
ต่างมีโค้ชเป็น คนชาติเดียวกัน ทำให้น่าจะมีการศึกษาแก้ทางกันมาพอสมควร แต่การไม่มี เอสเซียง ทำให้แดนกลางของ กาน่า อ่อนยวบไปมาก นักเตะหลายคนเป็นพวกประสบการณ์น้อยๆ ทำให้การรับมือกับทีมสุดยอดเทคนิคอย่าง เซอร์เบีย น่าจะเต็มไปด้วยความยากลำบาก ทว่า เซอร์เบีย จะติดประมาทไม่ได้เช่นกัน โดยโอกาสเป็นผู้ชนะน่าจะเกิดขึ้นกับ เซอร์เบีย ได้มากกว่า

ผลการแข่งขันที่คาด
เซอร์เบีย ชนะ กาน่า 2-1


เยอรมนี vs ออสเตรเลีย
เป็นที่คาดกันว่า โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมนี จะเรียกใช้บริการกองหน้าแค่คนเดียว โดยผู้ที่ได้รับ
โอกาสน่าจะเป็น มิโรสลาฟ โคลเซ่ มากกว่าทางด้าน คาเคา ส่วนตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางนั้น ซามี่ เคดิร่า จะได้ลงเล่นแทนที่ตำแหน่งของ มิชาเอล บัลลัค ที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวไปก่อนหน้านี้ และคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ เลิฟ จะส่ง เฌอโรม บัวเต็ง ลงยืนคู่กับ แพร์ เมอร์แตซัคเกอร์

ด้าน พิม เวอร์บีค เฮดโค้ชของ ออสเตรเลีย ยังต้องลุ้นว่า ทิม เคฮิลล์ กองกลางตัวสำคัญจะฟิตทันลงสนามหรือไม่หลังยังมีอาการบาดเจ็บที่คออยู่ ส่วน แฮร์รี่ คีเวลล์ สลัดอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบลงเล่นได้ และ เจสัน คูลิน่า ถ้าได้ลงเล่นใน 11 ตัวแรก จะทำให้เขาทำสถิติรับใช้ทีม “ซอคเกอร์รูส์” ครบ 50 นัดพอดี

นี่เป็นเพียงหนที่ 3 เท่านั้นในประวัติศาสตร์ที่ทั้งคู่ได้พบกัน โดยในฟุตบอลโลกปี 1974 ทีม “อินทรีเหล็ก”  เยอรมันตะวันตกในเวลานั้นเอาชนะไปขาดลอย 3-0 ส่วนหนล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2005 ในเกม คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ ซึ่ง เยอรมนี เอาชนะไปได้อีกคำรบด้วยสกอร์ 4-3

เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ
เยอรมนี ชนะคู่แข่งในเกมนัดเปิดสนาม 5 ครั้งหลังสุด และนับตั้งแต่ ยูเอสเอ 1994 ทีมแกร่งจากเมืองเบียร์ไม่เสียท่าให้กับทีมใดอีกเลยในรอบแบ่งกลุ่มเป็นจำนวนถึง 12 แมตช์ติดต่อกันเข้าให้แล้ว 

ความพ่ายแพ้ของ ออสเตรเลีย ต่อ สหรัฐอเมริกา เพิ่งจะเป็นความพ่ายแพ้หนที่  2 ในจำนวนที่ลงสนาม 14 เกมหลังสุด และ 3 ประตูที่เสียไปในเกมดังกล่าวต่อสหรัฐยังเป็นหนแรกที่พวกเขาเสียถึง  3 ประตูนับตั้งแต่ได้ พิม เวอร์บีค เข้ามาคุมทีมเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2008

ความน่าจะเป็น
เยอรมนี ต้องการออกสตาร์ทให้ดีเพือการคว้าแชมป์กลุ่ม และศักยภาพของพวกเขาเมื่อเทียบกับ ออสเตรเลีย แล้วก็ยังเหนือกว่าพอสมควรอยู่ดี ยิ่งถ้าทีม “จิงโจ้” อาจจะไม่มี ทิม เคฮิลล์ ในเกมนี้ ก็ทำให้น่าหนักใจแทน พิม เวอร์บีค ยิ่งขึ้นไปอีก โดย เยอรมนี จะอาศัยความแข็งแกร่งบด และ เบียดเอาชนะไปได้ในท้ายที่สุด

ผลการแข่งขันที่คาด
เยอรมนี ชนะ ออสเตรเลีย 1-0

 

"Copyright AFP, [2010]."

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook