เช็กด่วน! รัฐบาลออกหวยใหม่ "หวยเกษียณ" ต่อให้ไม่ถูกรางวัล ก็ยังมีเงินเก็บ!

เช็กด่วน! รัฐบาลออกหวยใหม่ "หวยเกษียณ" ต่อให้ไม่ถูกรางวัล ก็ยังมีเงินเก็บ!

เช็กด่วน! รัฐบาลออกหวยใหม่ "หวยเกษียณ" ต่อให้ไม่ถูกรางวัล ก็ยังมีเงินเก็บ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันไทยมีปัญหาประชาชน เข้าสู่วัยเกษียณ แต่ไร้เงินเก็บ ปัญหานี้จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็วของไทย และปัญหานี้แก้ไม่ได้ด้วยการอัดงบประมาณในรูปแบบเบี้ยคนชราจำนวนสูงๆ ซึ่งในที่สุดแล้วระบบงบประมาณไม่มีทางรับไหว

กระทรวงการคลัง กำลังพิจารณานโยบาย “สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ” หรืออาจเรียกสั้นๆว่า “สลากเกษียณ” หรือ “หวยเกษียณ” ซึ่งเป็นนวัตกรรมเชิงนโยบายที่รวมเอาลักษณะการชอบเสี่ยงดวงของคนไทยมาเป็นแรงจูงใจในการเก็บออมที่สามารถถอนเงินที่ซื้อสลากทั้งหมดออกมาได้ตอนเกษียณ (อายุ 60 ปี) โดยมีรายละเอียดเบื้องต้น (สามารถเปลี่ยนได้ภายหลัง) ดังนี้

เงื่อนไข สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หวยเกษียณ

  1. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ออกสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท เพื่อขายให้กับสมาชิก กอช. ผู้ประกันตน ม. 40 และแรงงานนอกระบบ (กลุ่มเป้าหมายจะเพิ่มเติมภายหลัง) ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อเดือน

  2. สามารถซื้อสลากได้ทุกวัน แต่ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันที โดยที่เงินค่าซื้อสลากถูกเก็บเป็นเงินออม แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม

  3. รางวัลของ “ทุกวันศุกร์” กำหนดดังนี้ (อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม)

    • 3.1. รางวัลที่ 1 จำนวน 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล

    • 3.2. รางวัลที่ 2 จำนวน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล

  4. เงินค่าซื้อสลากทั้งหมดจะเป็นเงินออมของผู้ซื้อสลาก (เงินสะสม) ซึ่งจะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. โดย กอช. จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี สามารถถอนเงินทั้งหมดที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตออกมาได้

“นโยบายนี้จะเข้าแก้ไขปัญหาคนไทยแก่แต่จน แก่แต่ไม่มีเงินเก็บ เพราะการออมภาคสมัครใจในปัจจุบันไม่ได้ผล ต้องอาศัยการออมที่ผูกกับแรงจูงใจ ซื้อสลาก ถูกกฎหมาย เงินไม่หาย กลายเป็นเงินออมยามเกษียณ ถูกรางวัลได้เงินเลย ไม่ถูกทุกบาททุกสตางค์จะถูกเก็บเป็นเงินออมยามเกษียณ ซื้อมาก ได้ลุ้นมาก มีเงินออมมาก”

รมช.คลัง กล่าวว่า นโยบายนี้อยู่ระหว่างขัดเกลารายละเอียด และต้องใช้เวลาแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย (6 เดือน-1 ปี) ไม่เกิดขึ้นเร็วอย่างแน่นอน แต่จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook