เร่งดับไฟพรุควนเคร็งก่อนหมดป่า-ลามพัทลุงวอดแล้วกว่า 70 ไร่

เร่งดับไฟพรุควนเคร็งก่อนหมดป่า-ลามพัทลุงวอดแล้วกว่า 70 ไร่

เร่งดับไฟพรุควนเคร็งก่อนหมดป่า-ลามพัทลุงวอดแล้วกว่า 70 ไร่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

7 ส.ส.นครศรีธรรมราช หวั่นไฟเผาหมดป่าพรุควนเคร็ง เร่งประสานผู้เกี่ยวข้องแก้ปัญหา พร้อมเรียกร้อง รมว.ทส.ลงพื้นที่หามาตรการป้องกัน ด้านผู้ว่าฯ พัทลุงขอทหารร่วมดับไฟ เผยป่าเสม็ดทะเลน้อยถูกเผาแล้วกว่า 70 ไร่

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (14 มิ.ย.) นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล พร้อม ส.ส.นครศรีธรรมราช 7 คน อาทิ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ และนายประกอบ รัตนพันธ์ ร่วมประชุมที่บ้านพักของนายวิทยา ใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อแก้ปัญหาไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง อ.ชะอวด ที่ยังคงลุกลามมาหลายวัน ทำให้หมู่บ้านในพื้นที่อำเภอชะอวดถูกปกคลุมด้วยหมอกควันไฟ โดยจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาระงับเหตุ รวมทั้งจะเร่งสืบหาผู้บุกรุกเผาป่าเพื่อทำการเกษตร ประกอบกับปีนี้แล้งจัด น้ำที่ขังในพรุแห้งเกือบหมด จึงเป็นปัญหาให้ไฟป่าลุกลามและดับยาก โดยเฉพาะป่ากระจูดที่ชาวบ้านใช้ประกอบอาชีพนั้นเสียหายอย่างมาก ฉะนั้น ทางจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องจะต้องเร่งจัดการอาชีพเสริมให้ชาวบ้านก่อน พร้อมกันนี้ขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบผืนป่า เพื่อยึดคืนป่ากลับมาเป็นของรัฐ และใช้มาตรการลงโทษกับผู้ทำผิดอย่างเฉียบขาด

ด้านนายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าพรุควนเคร็งลุกลามมาถึงพื้นที่ทะเลน้อย บริเวณทิศเหนือห่างจากหมู่บ้านหัวป่าเขียว 500 เมตร หมู่ 7 ตำบลทะเลน้อย อ.ควนขนุน พบว่าช่วง 3 วันที่ผ่านมา ป่าเสม็ดที่อุดมสมบูรณ์ถูกไฟเผาผลาญไปกว่า 70 ไร่ เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าพัทลุงยังไม่สามารถควบคุมได้ โดยกลุ่มควันยังคงหนาแน่นส่งผลกระทบต่อประชาชน
นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ไฟป่าเผาผลาญทะเลน้อยและขยายวงกว้างมากขึ้น พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าต้นเสม็ดที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย จึงต้องขอความร่วมจากชาวบ้านและทหารเข้ามาเสริมการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ สถานีควบคุมไฟป่า เพื่อเร่งดับไฟและทำแนวกันไฟ นอกจากนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปดูแลสุขภาพของชาวบ้านทะเลน้อย เพราะเริ่มมีอาการคัน แสบจมูก แสบตา แต่เบื้องต้นให้สวมหน้ากากอนามัยไว้ตลอด เพื่อป้องกันการสูดดมควันไฟ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นจำเป็นต้องอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook