มาร์ค สุรเดช ฟันธงบอลโลกกลุ่ม F และ G
วิเคราะห์เจาะลึก ศึกฟุตบอลโลก 2010 จาก มาร์ค สุรเดช ผู้บรรยายกีฬาชื่อดัง
กลุ่ม เอฟ
นิวซีแลนด์ vs สโลวาเกีย
ริคกี้ เฮอร์เบิร์ต อาจจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ทิม บราว์น กองกลางของทีมสำหรับเกมนี้หลังจากเขาเพิ่งจะไปผ่าหัวไหล่มา โดยสภาพความฟิตน่าจะทันลงเล่นในเกมกับ อิตาลี ในเกมต่อไปมากกว่า โดยตำแหน่งของเขา เฮอร์เบิร์ต จะดัน อิวาน วิเซลิช ที่ปกติเล่นเซนเตอร์ขึ้นไปทำหน้าที่แทน
ด้าน สโลวาเกีย ของกุนซือ วลาดิเมียร์ ไวส์ ยืนยันว่า มิโรสลาฟ สต็อค ฟิตทันสำหรับเกมนี้หลังจากลงซ้อมเที่ยวล่าสุดแล้วมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่าแต่ทว่าอาการไม่หนักหนามากนักเช่นเดียวกับรายของ มาร์ติน สเคอร์เทล ที่เจ็บข้อเท้าแต่พร้อมลงสนามอย่างแน่นอน
เกร็ดที่น่าสนใจ
- นี่เป็นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายหนแรกสำหรับ สโลวาเกีย ส่วน นิวซีแลนด์ เป็นการเข้ารอบหนที่ 2 หลังจากเคยทำได้หนแรกเมื่อปี 1982
- ฟุตบอลโลกหนแรกของ นิวซีแลนด์ เมื่อ 28 ปีก่อนจบลงด้วยความพ่ายแพ้ทั้ง 3 เกมในรอบแรก
- น้องใหม่ของฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายใน 2 สมัยหลังสุดอย่าง ยูเครน และ สโลวิเนีย ต่างพบกับความพ่ายแพ้ในเกมประเดิมสนามของทั้งคู่
ความน่าจะเป็น
ทั้ง 2 ทีมไม่ได้ถูกมองว่ามีโอกาสเข้ารอบมากนัก ยิ่งกอปรกับการต้องมาอยู่ในสายเดียวกับทีมแกร่งอย่าง "แชมป์เก่า" อิตาลี รวมทั้ง ปารากวัย ทำให้ต้องพยายามทำให้ดีที่สุดในการเผชิญหน้ากันเอง เพราะคงไม่อยากได้บ๊วยของกลุ่มกลับบ้านไปแน่ นิวซีแลนด์ มีดีที่ ไรอัน เนลเซ่น ในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ ลีโอ เบอร์ตอส ทำเกมกลางสนามได้ดี ส่วนแดนหน้ามี คริส กิลเล่น และ เชน สเมลตซ์ เป็นตัวอันตราย
ถ้า สเคอร์เทล ลงได้ เกมรับของ สโลวาเกีย จะแน่นหนาขึ้น แดนกลางของพวกเขามี มาเร็ค ฮัมซิค เป็นตัวทำเกม แล้วใช้ มิโรสลาฟ สต็อค คอยทำเกมอยู่ตามริมเส้น ข้างหน้าใช้ โรเบิร์ต วิทเท็ค คอยทำสกอร์ เป็นเกมที่ไม่ได้ห่างกันมากนัก แม้ นิวซีแลนด์ ชื่อชั้นอาจจะดูธรรมดา แถมมาจากโซนโอเชียเนีย พวกเขาหวังจะเก็บแต้มแรกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้ได้ และนี่คือโอกาสดีที่สุดแล้ว
ผลการแข่งขันที่คาด
นิวซีแลนด์ เสมอ สโลวาเกีย 0-0
กลุ่ม จี
ไอวอรี่โคสต์ vs โปรตุเกส
สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือเลือดสวีดิชของ ไอวอรี่โคสต์ จะต้องตัดสินใจว่าเขาจะเสี่ยงใช้งาน ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ดาวซัลโวของทีมลงเล่นในเกมนี้หรือไม่หลังจากดาวยิงเชลซีโชคร้ายบาดเจ็บแขนหักจนต้องใส่เฝือกอ่อน โดยหากไม่ส่ง ดร็อกบา ลงเป็นตัวจริง โอกาสจะตกเป็นของ เซย์ดู ดุมเบีย ที่จะได้ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ ซาโลมง กาลู แทน
ด้าน คาร์ลอส เคยรอช กุนซือของ โปรตุเกส ก็ต้องตัดสินใจเช่นกันว่าจะให้ เปเป้ ลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับในเกมนี้หรือไม่ หลังจากเขาหายเจ็บกลับมาและได้ลงเล่นไปเพียงเกมเดียวกับ โมซัมบิก ขณะที่ตัวทำเกมริมเส้นอย่าง ซิเมา ซาโบรซ่า แม้จะมีอาการเจ็บเล็กน้อยที่หัวเข่าแต่เจ้าตัวพร้อมลงสนาม
เกร็ดที่น่าสนใจ
- แม้จะเข้ารอบสุดท้ายมาด้วยการเล่นเพลย์ออฟ แต่ โปรตุเกส ก็อยู่สูงถึงอันดับ 3 ของโลกและไม่พ่ายแพ้ต่อทีมใดๆมากกว่า 20 เดือนเข้าให้แล้ว
- นี่เป็นครั้งแรกของการเจอกันของทั้งสองทีม
- ไอวอรี่โคสต์มีผู้เล่นแค่คนเดียวจาก 23 คนชุดนี้คือผู้รักษาประตูตัวสำรอง แอนโธนี่ เยบัวห์ ที่เล่นอยู่ภายในลีกในประเทศของตัวเอง
- 3 เกมรอบแรกเมื่อ 4 ปีก่อนของไอวอรี่โคสต์ พวกเขาเสียประตูเกมละ 2 ประตู
ความน่าจะเป็น
เป็นเกมที่สนุกแน่นอน เพราะต่างฝ่ายต่างมีขุนพลชั้นดีอยู่แน่นเต็มทีม น่าเสียดายที่ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ไม่ค่อยฟิตเท่าไหร่ เพราะจะทำให้ ไอวอรี่โคสต์ แข็งแกร่งขึ้นอีกเยอะหากเขาอยู่ในสภาพร่างกายที่เต็มร้อย
โปรตุเกส ขึ้นชื่อเรื่องเกมสวยงาม แต่การจบสกอร์ไม่ดีแม้จะมีซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในทีมด้วยก็ตาม โดยหากพวกเขาเป็นฝ่ายเสียประตูไปก่อน จะทำให้พวกเขาต้องเหนื่อยหนักแน่นอน ดูแล้วโอกาสออกเสมอมีสูงที่สุด และ โปรตุเกส ดีกว่านิดๆกับการเป็นผู้ชนะ
ผลการแข่งขันที่คาด
ไอวอรี่โคสต์ เสมอ โปรตุเกส 1-1
บราซิล vs เกาหลีเหนือ
คาร์ลอส ดุงก้า โค้ชใหญ่ของ บราซิล ได้ข่าวดีเมื่อ ชูลิโอ เซซาร์ ผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีมที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องเกมสุดท้ายกับ แทนซาเนีย หายเจ็บและพร้อมลงสนาม ส่วนรายของ รามิเรซ คงจะต้องหลีกทางให้กับ เอลาโน่ เพราะอดีตมิดฟิลด์แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำผลงานได้ดียามรับใช้ชาติ โดยเฉพาะจังหวะการเปิดบอลของเขา
ข่าวของ เกาหลีเหนือ แทบไม่มีเล็ดลอดออกมาเลย พวกเขาน่าจะใช้ระบบการเล่นแบบ 4-5-1 โดยตัวความหวังสูงสุดอย่าง จอง แต-เช จะยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า และใช้ ฮอง ยอง โจ ที่เล่นฟุตบอลอยู่ในประเทศ รัสเซีย ทำเกมอยู่ด้านหลัง
เกร็ดที่น่าสนใจ
- นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองชาติได้ปะทะแข้งกัน
- บราซิล เป็นชาติเดียวในโลกที่เคยได้แชมป์มาแล้วไม่ว่าจะเป็นในทวีป อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, ยุโรป และ เอเชีย
- ใน 26 เกมหลังสุดของ บราซิล พวกเขาแพ้เพียงเกมเดียวต่อ โบลิเวีย ที่ ลาปาซ (ที่ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะลค่อนข้างมาก)
- ใน 16 เกมรอบคัดเลือกของโซน เอเชีย เกาหลีเหนือ เสียประตูให้กับคู่แข่งไปเพียงแค่ 7 ประตูเท่านั้น
ความน่าจะเป็น
บราซิล ถูกยกให้เป็นเต็ง 2 ในการคว้าแชมป์ครั้งนี้ โดยพวกเขาอยู่ในสภาพที่พร้อมมากสำหรับเกมนี้ ด้าน เกาหลีเหนือ ก็หวังจะสร้างประวัติศาสตร์หลังจากผ่านเข้ารอบมาได้เป็นครั้งแรกในรอบถึง 44 ปี โดยในปี 1966 พวกเขาเคยปราบพยศ อิตาลี ก่อนจะไปพ่ายต่อ โปรตุเกส อย่างน่าเสียดายในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
เชื่อว่าเกมนี้ บราซิล จะเป็นฝ่ายเดินเกมทำเกมรุกเข้าใส่อย่างแน่นอน แต่พวกเขาไม่สามารถประมาท เกาหลีเหนือ ได้เช่นกันโดยเฉพาะจังหวะสวนกลับ อย่างไรก็ดีระดับฝีเท้าของทั้งสองทีมยังห่างกันอยู่พอสมควร เมื่อเล่นไปแล้วสักช่วงของเกม บราซิล จะค่อยๆจับทาง และหาโอกาสยิงประตูเก็บ 3 แต้มไปในที่สุด
ผลการแข่งขันที่คาด
บราซิล ชนะ เกาหลีเหนือ 3-0