ย้อนอ่าน 9 แนวทาง "พิธา" แถลงต่อสู้ยุบก้าวไกล พูดครบงูเห่า-สัดส่วนโทษ-พรรคสำรอง

ย้อนอ่าน 9 แนวทาง "พิธา" แถลงต่อสู้ยุบก้าวไกล พูดครบงูเห่า-สัดส่วนโทษ-พรรคสำรอง

ย้อนอ่าน 9 แนวทาง "พิธา" แถลงต่อสู้ยุบก้าวไกล พูดครบงูเห่า-สัดส่วนโทษ-พรรคสำรอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“พิธา” ถือฤกษ์ 9 โมง วันที่ 9 แถลง 9 ข้อต่อสู้ยุบ “ก้าวไกล” ชี้ ศาล รธน. ไม่มีอำนาจวินิจฉัยตั้งแต่แรก ยันคำร้อง กกต. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เชื่อหากยุบ มั่นใจจะไม่มีงูเห่า

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือฤกษ์ 9 โมง วันที่ 9 แถลง 9 ข้อต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล ระบุว่า การแถลงข่าววันนี้หลายฝ่ายแสดงความกังวล ขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นข้อคิดเห็นและไม่ได้เป็นการชี้นำสังคม แต่เป็นการแถลงโดยข้อเท็จจริง และกฎหมาย ซึ่งค่อนข้างละเอียด สำหรับ 9 ข้อต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย 3 หมวดหมู่ คือ ด้านกระบวนการ ข้อเท็จจริง สัดส่วนโทษ ดังนี้

ด้านขอบเขตอำนาจและกระบวนการ (Jurisdiction & Process)


1.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีเขตอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดีนี้
2.กระบวนการยื่นคำร้องของ กกต. “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

ด้านข้อเท็จจริง (Facts)


3. คำวินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค. 67 ไม่ผูกพันการวินิจฉัยคดีนี้
4. การกระทำที่ถูกกล่าวหา ไม่ล้มล้าง ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์
5. การกระทำตามคำวินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค. 67 ไม่ได้เป็นมติพรรค

ด้านสัดส่วนโทษ (Penalty)


6. โทษยุบพรรคต้องเป็นมาตรการสุดท้าย เมื่อจำเป็น ฉุกเฉิน ฉับพลัน และไม่มีวิธีแก้ไขอื่น
7. ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจตัดสิทธิ กก.บห.
8. จำนวนปีในการตัดสิทธิทางการเมือง ต้องได้สัดส่วนกับความผิด
9. การพิจารณาโทษ ต้องสอดคล้อง กับชุด กก.บห.ในช่วงที่ถูกกล่าวหา

นายพิธา อธิบายว่า 9 ข้อต่อสู้ กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คดียุบพรรคก้าวไกล จากกรณีการรณรงค์หาเสียงแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ช่วงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจะเน้นความสำคัญใน 3 ข้อต่อสู้ คือ ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 6

นายพิธา ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีเขตอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดีตั้งแต่แรก อีกทั้งกระบวนการยื่นคำร้องของ กกต. “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” เนื่องจากไม่เปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกล โต้แย้ง แสดงพยานหลักฐาน ตามมาตรา 92 และ 93

นอกจากนี้ คำวินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค. 67 ไม่ผูกพันการวินิจฉัยคดีดังกล่าว ซึ่ง กกต. ใช้เป็นหลักฐานเดียวประกอบการยุบพรรคก้าวไกล จึงเรียกร้องให้พิจารณาใหม่ทั้งหมด

ส่วนสุดท้ายโทษยุบพรรคต้องเป็นมาตรการสุดท้าย เมื่อจำเป็น ฉุกเฉิน ฉับพลัน และไม่มีวิธีแก้ไขอื่น ซึ่งโทษยุบพรรคมีได้ แต่ต้องมีไว้ปกป้องประชาธิปไตย และที่ผ่านมาพรรคก้าวไกล ก็มีการถอดการรณรงค์หาเสียงออกจากเว็บไซต์ตามคำตักเตือนของ ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว

ทั้งนี้ กรณีหากยุบพรรคก้าวไกล จะส่งผลให้สมาชิก 44 รายชื่อ ที่ยื่นยุบพรรคจะหมดความเป็นสมาชิกภาพนั้น นายพิธา มั่นใจว่า จะสามารถต่อสู้คดีสำเร็จและสมาชิก 44 รายชื่อ ที่จะยังอยู่ครบ

ขณะไทม์ไลน์หลังจากนี้ ไม่สามารถกำหนดได้ ต้องรอให้ศาล รธน. ตัดสินก่อน และไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรตามมาบ้าง เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในช่วงเปราะบางทั้งการเมือง และสภาพเศรษฐกิจ

นายพิธา ยังระบุอีกว่า หากมีการยุบพรรคก้าวไกลครั้งนี้ จะมีผลให้กรรมการบริหารพรรค ทั้ง 3 ชุด รวมถึงตนจะถือตัดสิทธิ์ไปด้วย เบื้องต้น เตรียมผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 10 คน หากมีการยุบพรรคก้าวไกลครั้งนี้จะมีผลให้

ส่วนกระแสข่าวหากพรรคก้าวไกลถูกยุบจะมี สส. งูเห่าหรือไม่ นายพิธา เชื่อมั่นว่า สมาชิกพรรคยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม แต่ยอมรับว่า มีบางพรรคพยายามจะเสนอเงื่อนไขให้สมาชิกพรรค ซึ่งอาจจะทำให้ สส.ไขว้แขว ไปได้ ซึ่งตนได้เห็นคลิปมาบ้างแล้ว และมั่นใจว่า ความนิยมของพรรคจะไม่ลดลง

ขณะเดียวกัน นายพิธา ยังกล่าวถึงกรณีการตั้งพรรคสำรองว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เพราะขณะนี้พรรคก้าวไกลกำลังเรียงลำดับความสำคัญในการใช้ 9 ข้อต่อสู้ยุบพรรคก้าวไกล การต่อสู้คดี การใช้ข้อกฎหมายให้แม่น การเปรียบเทียบคดีต่างๆ ในประเทศไทย และในต่างประเทศ เพื่อชี้ให้เห็นว่ากระบวนการ กกต. มีความบกพร่องขัดกับตัวบท กกต. เอง ทำให้สารตั้งต้นของคดีนี้ไม่มีความชอบด้วยกฎหมาย เมื่อถามย้ำว่า ยังไม่มีการตั้งพรรคสำรองใช่หรือไม่ นายพิธา บอกว่า “ยังไม่ถึงเวลา”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook