ลูกชายติดใจแม่เสียชีวิตในห้องซาวน่า เหมือนเด็กถูกทิ้งในรถตู้จนตาย ไม่มีคนคอยมาเช็ก

ลูกชายติดใจแม่เสียชีวิตในห้องซาวน่า เหมือนเด็กถูกทิ้งในรถตู้จนตาย ไม่มีคนคอยมาเช็ก

ลูกชายติดใจแม่เสียชีวิตในห้องซาวน่า เหมือนเด็กถูกทิ้งในรถตู้จนตาย ไม่มีคนคอยมาเช็ก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกชายหลั่งน้ำตา แม่เสียชีวิตในห้องซาวน่า เหมือนเด็กถูกทิ้งในรถตู้จนตาย หลังเกิดเหตุห้องยังร้อนมาก

จากกรณีที่ วานนี้ (10 มิ.ย.) พบศพหญิงวัย 71 ปี เสียชีวิตภายในห้องซาวน่า ของฟิตเนสชื่อดังแห่งหนึ่ง ภายในห้างสรรพสินค้าย่านแจ้งวัฒนะ ซึ่งหญิงคนดังกล่าวเป็นลูกค้าที่เข้ามาใช้ฟิตเนสเป็นประจำ ตั้งแต่เวลา 08.00 น ก่อนที่วันเกิดเหตุจะมาพบเสียชีวิตภายในห้องซาวน่าเวลา 18.00 น

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. ที่วัดผาสุกมณีจักร ญาติหญิงวัย 71 ปี ได้นำศพมาบำเพ็ญกุศลที่ ศาลา 1 หลังรับศพจากการชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ นายจรัญ ลูกชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาแม่ของตนเข้าใช้บริการฟิตเนสแห่งนี้เป็นประจำเกือบทุกวัน โดยในวันเกิดเหตุพ่อของตนไปส่งตอนเวลา 8:00 น ซึ่งโดยปกติก็จะเลิกประมาณ 10-11 โมง ยืนยันว่าแม่ของตนไม่มีโรคประจำตัว ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเคยเป็นสมาชิกฟิตเนสนี้ แต่ก็ไม่ได้ดูเรื่องระบบแบบละเอียดเพราะว่าเข้าไปแป๊บเดียว แต่รู้ว่าห้องซาวน่านี้เป็นระบบออโต้ไม่สามารถปรับอะไรเองได้ แต่เมื่อวานนี้หลังจากที่ตนเข้าไปในที่เกิดเหตุและได้เข้าไปสังเกตภายในห้องซาวน่าฝั่งผู้ชายที่มีลักษณะโครงสร้างเดียวกัน ก็พบว่าห้องซาวน่าร้อนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่เข้าไปยังที่เกิดเหตุ พอออกมาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าภายในห้องร้อนมาก ตนไม่ทราบว่ามีการเซ็ตระบบเอาไว้อย่างไร

ซึ่งที่ผ่านมาเชื่อว่าคุณแม่เข้าซาวน่าเป็นประจำเพราะว่ามีเพื่อนและสมาคมอยู่ที่นี่ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงติดใจ เพราะการที่จะเข้าไปห้องลักษณะนี้ควรจะมีการตรวจสอบ และลงเวลา เพราะเราไม่รู้ว่าสภาพแต่ละคนที่เข้าไปเป็นยังไง บางคนอาจจะหน้ามืดขณะใช้งาน ซึ่งถ้าไม่มีคนไปตรวจก็ไม่ต่างอะไรกับการปล่อยเด็กเอาไว้ในรถตู้ หากมีคนไปเดินตรวจ 10-20 นาทีต่อครั้งซึ่งเป็นเรื่องที่ควรทำ หรือใครที่จะเข้าห้องซาวน่าแบบนี้ควรจะมีการลงชื่อเวลาเข้าออก ที่บอกว่าใครก็เข้าไปได้ ไม่มีการลงชื่อลงเวลา เมื่อมีคนไปใช้แล้วเสียชีวิตก็คือความผิดของเขาหรือ ขณะที่ทางฟิตเนสยังไม่มีการติดต่อมา ตนเสียใจมากเพราะว่าเมื่อตอนต้นเดือนเพิ่งบอกแม่ว่าอย่าเข้าฟิตเนสเลย อยากให้ออกกำลังกายเบาๆ สุดท้ายนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาดูแลไม่ควรปล่อยไว้แบบนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook